วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

การเกษียณตัวเองด้วยการลงทุนในหุ้น ... คุณทำได้

ความฝันของหลายคนคือ เมื่ออายุประมาณ 50 ปีขึ้นไปไม่อยากไปทำงานประจำอีก และจะได้มีการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานแทน ทำให้คนไม่ตกงานมาก เพราะมีการเปลี่ยนคนได้ทันเวลา ดังนั้น ถ้าเราจะเลิกทำงาน แต่เรายังต้องมีเงินใช้ตลอดจนกว่าเราจะลาจากโลกนี้ไป จะทำอย่างไร นี้คือคำถามสำหรับทุกคน

ถ้าหุ้นเป็นคำตอบหนึ่งที่คุณสามารถเข้าไปลงทุนได้ โดยมีแผนที่จะทำให้ชีวิตช่วงปลายของคุณ มีเงินใช้ตลอดชีวิต และเมื่อคุณจากโลกนี้ไป ลูกหลานก็ยังรับเป็นมรดกต่อได้อีกด้วย

การลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสักปีละเท่ากับค่าใช้จ่ายของคุณทั้งปี จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณรู้ว่าแต่ละปีคุณใช้เงินสดสูงสุดเท่าไร เช่น คนทั่วไป ใช้ชีวิตแบบพอเพียง ปีละ 500,000 บาท น่าจะพอ

ถ้าคุณต้องการเงินปันผลจำนวน 500,000 บาท จะต้องใช้เงินซื้อหุ้นเท่าไร ต้องดูว่าเงินปันผลของหุ้นที่คุณจะซื้อเป็นเท่าไร แบบตำ่สุดที่มีข้อมูลเช่น 5% ซึ่งบางปีอาจจะได้สูงสุดถึง 20% ตรงนั้นก็เป็นโบนัสไป

เงินลงทุนทั้งหมดเท่ากับ 500,000 หารด้วย 5% เท่ากับ 10 ล้านบาท ถ้าเราต้องการเลิกทำงานในขณะที่อายุ 50 ปี และเรามีเงินซื้อหุ้นปีละ 400,000 บาท ทำงานตั้งแต่อายุ 25 ปี เรามีเวลาซื้อ 25 ปี แต่ระหว่างปีเราจะได้เงินปันผลแบบเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งเงินนั้นเราสามารถนำมาเป็นเงินลงทุนต่อได้

เช่นหุ้น SSF ราคา 3.94 เงินปันผล 0.3 ประมาณ 7% ถ้าซื้อ 100,000 หุ้นจะใช้เงิน 394,000 บาท ได้ เงินปันผล 30000 บาทต่อปี ถ้าซื้อ 10ปี จะได้ 1,000,000 หุ้น ใช้เงินไป 3.94 ล้านบาท ได้เงินปันผล 300,000 บาท ในปีที่ 10 รวมกับอีก 9 ปี ที่ผ่านมา จะได้มากกว่า 700,000 บาท
และถ้าซื้อต่อไปอีก 10ปี จะใช้เงิน 8 ล้านบาท จะมีหุ้น SSF 2.0 ล้านหุ้น รับเงินปันผลปีละ 600,000 บาท ณ ปีที่ 20 หมายความว่า เมื่อคุณอายุ 45 ปี คุณจะมีเงินปันผลต่อปี จากหุ้นตัวเดียว 700,000 บาท แต่ถ้าในปีไหนบริษัท SSF ขาดทุนคุณจะไม่ได้เงินปันผลและราคาหุ้นอาจจะตกลงต่ำกว่าที่คุณซื้อได้

อย่างไรก็ตามนี้เป็นแนวทางสำหรับการเตรียมตัวออกจากวังวนของงานประจำได้อย่างสบายใจ






DTAC มีสัญญาณชื้อชัดขึ้น


DTAC : หลังจากอึดอัดการมาหลายวัน ล่าสุดสามารถทำราคาขึ้นมาได้ที่ 28.00 บาทได้ แนวต้านหนาแน่น ที่ 29.50 เลยโดนขายออกมาเยอะ ปิดไม่สวย แต่ยืนเหนือเส้น 5 วันได้ มีลุ้นถ้าวันจันทร์สามารถทะลุ 29.00 ได้สำเร็จ จะไปต่อยาว แต่ถ้าไม่ผ่านก็ต้องรออีกหน่อย สัญญาณทางเทคนิค ROC เป็นบวกได้แล้ว ไม่น่าลง ส่วน RSI เกิน 50 มีแนวโน้มดันราคาต่อไป ขายเมื่อ RSI เกิน 80 คาดว่าน่าจะได้สักราคา 33 บาท มีอยู่ถือรอขาย ยังไม่มีลุยตามซื้อได้เลย ผลการดำเนินงานดี ไม่ต้องกลัว..

อ่านเทคนิคหุ้นขาขึ้นรอบต่อไป


TTA: ราคาขึ้นมาต่อเนื่องจาก 9.90 บาทเมื่อหลายเดือนก่อน มาถึงปัจจุบันทะลุผ่าน 20 บาทมาได้สำเร็จ ล่าสุดปิดได้ที่ 22 บาท สัญญาณซื้อกลับมาอีกครั้ง ROC ยังบวก แต่ก็ยังไม่สูงกว่ารอบก่อน แสดงว่ารอบนี้ขึ้นมาเพื่อขายออก แต่มีราคา New High แต่ไม่ยังยืน ใครมีเตรียมขาย ซื้อเล่นรอบก็พอได้แต่ต้องเร็วหน่อยครับ


วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

5 เหตุผลที่คุณควรลงทุนในหุ้น

ผมเคยถามตัวเองว่า ทำไมต้องลงทุนในหุ้น และจำนวนเงินที่เราควรจะลงนั้น เป็นเท่าไร และเมื่อไรจึงจะเลิกลงทุน และวันนี้ผมได้คำตอบแล้วครับ

1. โอกาสการเป็นเจ้าของธุรกิจ ที่ลงทุนด้วยเงินจำนวนไม่มาก การซื้อหุ้นเหมือนเราได้มีส่วนความเป็นเจ้าของ แต่ไม่ได้บริหารกิจการ ได้รับแค่ส่วนแบ่งจากเงินปันผล ซึ่งข้อดีคือลงทุนเท่าไรก็ได้ตามขั้นตำ่ของการซื้อหุ้น คือ 100 share ต่อครั้ง ส่วนเงินลงทุนตำ่สุด ขึ้นกับราคาหุ้น​ ณ​เวลานั้นว่าเท่าไร

2.ผลตอบแทนที่เลือกได้ เดิมเราจะได้รับเงินตอบแทนจากการฝากธนาคาร ซึ่งวันนี้ดอกเบี้ยเกือบ 0% ไม่มีรายรับจากดอกเบี้ยอีกแล้ว การซื้อหุ้นที่มีเงินปันผลมากกว่า 10% จึงเป็นการลงทุนที่ดีทางหนึ่ง

3. มูลค่าเพิ่มจากราคาหุ้น ซึ่งการลงทุนส่วนใหญ่ถ้ามีการเลือกจังหวะในการซื้อให้เหมาะสม จะได้กำไรจากราคาหุ้นค่อนข้างสูงอย่างน้อยมากกว่า 30% หรือบางตัวให้เกิน 100 % เช่น PTT, BANPU, TTA ซึ่งเงินฝากไม่สามารถให้ได้

4. หุ้นสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที การลงทุนในหุ้นจะช่วยให้คุณอุ่นใจตลอดเวลา ว่าเงินในหุ้นสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ภายในสามวัน ซึ่งดีกว่าทรัพย์สินตัวอื่นๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ เมื่อเราต้องการใช้เงิน หุ้นจึงสามารถช่วยแก้สถานการณ์ให้ได้

5. มีสิทธิ์เข้าประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี เมื่อเราซื้อหุ้นไม่ว่าจะ 100 หุ้นหรือ 1,000,000 หุ้น ก็มีสิทธิ์เข้าประชุมสามัญ ซึ่งจะจัดปีละครั้ง ทำให้เราได้พบกับผู้บริหารของบริษัทแบบครบองค์ ที่สำคัญปัจจุบันทุกบริษัทจะมีการแจกของที่ระลึกซึ่งหาซื้อไม่ได้ อาจจะเป็นการสะสมของได้อย่างหนึ่งครับ มีอาหารเลี้ยงอย่างดีครับ

วันนี้ถ้าคุณยังไม่มีหุ้น ลองศึกษาดูครับ เมื่อคุณอายุมากขึ้น คุณจะมีเงินปันผลใช้ตลอดชีวิตได้อย่างไร ไว้จะมาเล่าสู่กันฟังครับ..



กราฟทางเทคนิคบนหน้าเว็บไซต์ SETTRADE.com


แน่นอนว่า นักลงทุนแบ่งเป็นหลายประเภทครับ ประเภทแรกคือ มีเงินเยอะแต่ขาดความรู้ ประเภทสองคือ มีเงินปานกลาง มีความรู้ในการลงทุน และคนประเภทสุดท้ายคือ มีเงินน้อย แต่มีความรู้ด้านการลงทุนทั้งพื้นฐานและกราฟทางเทคนิค

ในตลาดหุ้นไทย กลุ่มที่มีเงินแต่ขาดความรู้ทั้งพื้นฐานและเทคนิคมีเยอะมากกว่าครึ่ง สังเกตว่า กองทุนรวมต่าง ๆ ที่ออกมาจำนวนมาก ก็ยังขายได้ แต่ในอนาคตคนรุ่นแรกที่เล่นหุ้นมักจะอำลาโลกนี้ไป เหลือแต่รุ่นลูกที่จะเป็นคนหนุ่มไฟแรง มีความรู้จบสูง ระดับป.โท แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีหลายปัจจัยที่จะทำให้ประสบความสำเร็จและล้มเหลวได้

ไม่ว่าคุณจะลงทุนด้วยเงินเท่าไร หนึ่งหมื่น หนึ่งแสนหรือ หนึ่งล้านบาท ผมคิดว่าการมีความรู้ในการลงทุนจะทำให้ทุกคนสนุกกับการลงทุน และได้พิสูจน์ทฤษฎีบางอย่างว่าเป็นจริงตามตำราหรือไม่

ผมลงทุนในหุ้นมากว่า 10 ปี ด้วยวงเงินไม่มาก แค่ 200,000 บาท การได้กำไรขาดทุนจึงไม่ค่อยมากมายนัก ขาดทุนมาก ก็ไม่กี่พันกี่หมื่นบาท แต่ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ลงทุนหลายอื่นๆ บางท่านลงทุนไป 5 ล้านเหลือแค่ 5 แสนบาท เป็นเพราะขาดสติในการลงทุนและขาดการเรียนรู้ครับ

ผมศึกษาทั้งพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค บ่อยครั้งที่ผมไม่เชื่อเทคนิคแต่สุดท้ายก็ต้องเสียโอกาส หลายตัวมากๆ ครับ ทั้ง BANPU, SHIN, TTA, BAT3-K ทุกตัวผมเคยซื้อในราคาต่ำกว่า 20 บาท แต่ขายทำกำไรได้เพียงนิดหน่อยเมื่อเทียบกับราคาปัจจุบันครับ..

ปัจจุบันแม้ว่าจะทราบการวิเคราะห์ทางเทคนิคในระดับหนึ่งแต่ก็ยังไม่ยอมทำตาม จึงมักติดหุ้นอยู่เสมอครับ แต่สุดท้ายก็ได้กำไรครับ ถ้าเราลงทุนด้วยเวลาได้มากพอ

ในเว็บไซต์ settrade.com ผมคิดว่าทุกคนต้องรู้จักถ้ามีหุ้นอยู่ มีส่วนของกราฟทางเทคนิค ผมใช้ดู SET INDEX และ หุ้นรายตัว แต่จะไม่ real-time นะครับ สามอย่างที่ต้องรู้ก่อนซื้อขายหุ้น

1.เลือกหุ้นพื้นฐานดีก่อนอันดับแรก ผลการดำเนินงานขาดทุน ไม่ซื้อ แต่ถ้าเคยกำไรแล้วมาขาดทุนอย่าง THAI ก็คงไม่เป็นไร
2.ใช้กราฟทางเทคนิค ดูค่า ROC และ RSI เป็นหลัก ในการซื้อขาย ถ้า ROC เป็นลบ หุ้นไม่เป็นขาขึ้น แต่จังหวะซื้อคืออาศัยจังหวะที่ ROC ติดลบเป็นตัวเลขมากๆ แล้วเริ่มดีขึ้น และมาซื้อเพิ่มอีกครั้งเมื่อมีค่าผ่าน 0 มาเป็นบวกได้ ส่วน RSI ต่ำกว่า 30 ซื้อ มากกว่า 75 ขาย จะทำให้เราซื้อขายไม่ผิดรอบครับ
3.ซื้อขายไม่ควรทำครั้งเดียว เช่นการซื้อ ก็แบ่งซื้อหลายรอบ การขายก็แบ่งหลายรอบ รับรองไม่ผิดพลาด เพราะยังไงเราไม่สามารถซื้อได้ต่ำสุดและขายได้สูงสุดอยู่แล้วครับ...

ด้วยความปรารถนาดีจาก CJ069

DTAC ปิดเที่ยงนี้ 29 บาท ลุ้นต่อที่ 30 บาท


สำหรับหุ้น DTAC อ่านเทคนิคการเล่นไม่ยาก เมื่อไร ได้ของหมด แล้ว พุ่งแรงและเร็ว ฉุดไม่อยู่ เมื่อวานยัง 27 วันนี้ มาปิดเที่ยงที่ 29 บาท เพิ่มวันเดียว 1.75 บาท วอลุ่ม มากกว่า 20 ล้านหุ้น ปัจจัยสนับสนุนว่าได้ของหมดแล้ว ดันราคาได้ครับ ใครมีถือไว้ รอจนกว่าจะขึ้นไปเหนือ 40 บาท อย่างน้อยต้องเล่นประมาณสองเท่าของราคาต่ำสุดคือ 21 บาท รอบก่อนหน้านี้ที่ดัชนีลงไปที่ 300 จุดกว่าๆ ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วันนี้ดีแทค วอลุ่มเข้ามาแล้วรอลุ้นกันต่อครับ


เพิ่งคุยกันไปเมื่อวันวาน ว่า DTAC หุ้นดีที่ยังไม่มีการไล่ราคาขึ้น จะทนอยู่ได้อย่างไร ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ บวกกันกว่า 100 % แม้แต่การบินไทยที่ว่าขาดทุึนเยอะ ยังขึนมาได้ จาก 6.00 เป็น 15 บาท สองสามเท่าจากต่ำสุด ผู้ลงทุนดีแทคต้องอดทนไว้ครับ ไม่นาน ราคา 30 บาทขึ้นไปจะได้เห็น เร็วๆ นี้ ..

update ปิดเที่ยงมาได้ที่ 27.50 บาทแล้ว รอลุ้นปิดวันนี้ที่ 28 บาทครับ

Cj069

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

SSF คุ้มค่ากับการรอคอย


ต้องยอมรับว่า การลงทุนกว่าจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ ต้องใช้เวลาในการมองหาหุ้นพอสมควร ยกตัวอย่างกับหุ้นสุรพลฟู้ด SSF ที่ผมถือมากว่า 5 ปี และรับเงินปันผลปีละึ 7-10% มาตลอด แม้ว่าราคาหุ้นจะตกลงไปต่ำสุดที่ 1.69 แต่ก็ไม่ได้เสียหายประการใด ยิ่งเป็นโอกาสเสียอีก ในการซื้อเข้ามาเพิ่ม ทำให้ค่าเฉลี่ยของต้นทุนลดลง

และแล้วเวลาแห่งความสุขก็มาถึง เมื่อ SSF สามารถทำกำไรจากการดำเนินงานได้สูงที่สุดในรอบห้าปี จนทำให้ราคาหุ้นวิ่งทะยานไม้เดียวมาอยู่แุถว 3.90-4.00 บาทได้สำเร็จ นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเพราะผมได้กำไรมากถึง 64% จากราคาหุ้น ไม่รวมเงินปันผลอีกกว่า 50% ตลอด 5 ปี นี่คือหนึ่งประสบการณ์ที่อยากจะเล่าให้ฟังครับ

แต่ณ ราคาปัจจุบัน จะลงทุนต่อไปได้หรือไม่ ขึ้นกับผลการดำเนินงานในไตรมาสต่อไป ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นเพราะผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่สนใจผู้ถือหุ้นจึงมีวันที่ผลการดำเนินงานดีขึ้นมาได้ ผิดกับอีกหลายบริษัทที่ขาดทุนแล้วขาดทุนเล่าจนไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้กำไรครับ

เพราะฉะนั้น นักลงทุนควรเลือกลงทุนในหุ้นที่มีเงินปันผลก่อนเป็นอันดับแรก และจะไม่มีวันผิดหวังหรือขาดทุนอย่างแน่นอน

cj069

DTAC หุ้นที่ต้นทุนยังไม่สูง ลงทุนได้


ถ้าใครสังเกตราคาหุ้นของ DTAC จะพบว่า อยู่ในภาวะทรงตัวมากว่าสองสัปดาห์แล้ว ต่ำสุด 26 บาท สูงสุด 29.50 บาท ราคาไม่ไปไหนเสียที ทั้งๆ ที่ นักวิเคราะห์ประเมินราคาเหมาะสมไว้สูงถึง 38 บาท

ผมจำได้ว่ารอบแรกตั้งแต่ DTAC เข้าตลาดสามารถหลอกนักลงทุนที่ชอบเก็งกำไรให้ขายออกไปต่ำกว่าราคาจองที่ 40 บาทได้ และหลังจากนั้น ก็ลากขึ้นไปสูงสุดที่ 60 บาท ภายในเวลาอันรวดเร็ว บทเรียนครั้งนั้นผมยังจำได้ดี เพราะผมก็ขายไปสูงสุดได้แค่ 43.75 บาทเท่านั้น

ดังนั้น รอบนี้ผมคิดว่า สถานการณ์คล้ายกันมาก เพราะพฤติกรรมการเก็บหุ้นเหมือนกันมาก ทั้งที่ผลการดำเนินงานดีกว่ารอบแรกที่ขึ้นไป 60 บาทเสียด้วย ใจเย็น และทันทีที่ทุกท่านขายหุ้นออกไปเกือบหมด ราคามันจะพุ่งแรงแบบไม่น่าเชื่อ และวันนั้นกำลังใกล้เข้ามาแล้ว... รอให้ไหวครับสำหรับผู้ถือหุ้น DTAC รับรองรวยแน่นอน...

Cj069

วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

นักลงทุนมือใหม่ ฟังทางนี้ครับ


เวลาหุ้นขึ้น มักจะมีคนมาถามผมว่า จะเริ่มต้นลงทุนอย่างไร ไม่มีความรู้และไม่เข้าใจ ผมก็จะให้คำแนะนำไปว่า การลงทุนหุ้นนั้นดีมาก ถ้ามีความรู้เสียก่อน เพราะหุ้นเป็นเสมือนเราเข้าไปร่วมลงทุนในกิจการนั้นๆ จะกำไร-ขาดทุน ก็ต้องขึ้นอยู่กับธุรกิจนั้นว่ามีแนวโน้มดีหรือไม่ และลูกค้ามีความมั่นคงแค่ไหน ผมยกตัวอย่างหุ้นของ SE-ED ที่ทุกวันนี้ ทุกคนรู้จักซีเอ็ด และเคยจ่ายเงินซื้อหนังสือในร้านซีเอ็ด ที่ทุกวันนี้มีกว่า 336 สาขา ทั่วประเทศ ยอดขายปีละ 4,500 ล้านบาท กำไรสุทธิปีละ 200 กว่าล้านบาท ปันผลหุ้นละ 59 สตางค์ต่อปี

การลงทุนในหุ้น SE-ED นอกจากจะได้เงินปันผลแล้ว ยังสามารถได้ค่าความนิยมเป็นมูลค่าเพิ่มอีกด้วย และด้วยกระแสเงินสดที่มากมาย ทำให้กิจการปลอดภัยต่อการเป็นหนี้หรือขาดสภาพคล่องคงไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าจะเน้นเรื่องส่วนต่างราคา อาจจะไม่ตอบโจทย์ เพราะราคาหุ้นอาจจะไม่เคลื่อนไหวมากมายนัก อยู่ระหว่าง 5-11 บาท ในขณะที่หุ้นตัวอื่นๆ อาจจะมีช่วงของราคาขึ้นลงสูงมากกว่านี้หลายเท่า

ดังนั้น จุดเริ่มต้นของการลงทุนที่ดีคือต้องรู้ก่อนว่าเราชอบธุรกิจประเภทไหน และเข้าใจมันจริงๆหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุน ต่อมาเมื่อเลือกหุ้นได้แล้ว ควรจะดูผลตอบแทนจากเงินปันผลเป็นหลักก่อนอื่น เพราะนั่นหมายถึงกิจการมีกำไร และต้องสม่ำเสมอ หรือไม่ก็นานๆ จะขาดทุนสักปีหนึ่ง เพราะส่วนใหญ่ก็ต้องมีปีที่ขาดทุนบ้าง

จากนั้นตรวจสอบดูสถิติราคาหุ้นเสียก่อน เพื่อจะได้ทราบว่าหุ้นตัวที่เราสนใจจะถูกสุดเท่าไร และแพงสุดเท่าไร พยายามเลือกจังหวะลงทุนเมื่อราคาอยู่ในโซนต่ำกว่าพื้นฐานแท้จริง เพื่อความปลอดภัย แล้วค่อยๆ ซื้อ อย่าซื้อครั้งเดียว เช่นเงินมีก้อนหนึ่งแบ่งซื้อสามรอบ จะได้ราคาที่ดีกว่าซื้อครั้งเดียว ยกเว้นราคานั้นอยู่ทางด้านต่ำ หลังจากซื้อหุ้นแล้วก็ควรติดตามความเคลื่อนไหวของผลงานของกิจการนั้นๆ ด้วย แล้วครั้งต่อไปเรามาดูกันว่า เมื่อไรควรขายหุ้นออก...

เขียนโดย ชยุต จึงภักดี

เริ่มต้นลงทุนหุ้นอย่างไรให้ปลอดภัย


หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจลงทุนในตลาดหุ้น แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ นี่คือหลักสูตรแรกที่จะช่วยคุณให้ปลอดภัยจากการขาดทุนในตลาดหุ้นได้ รวมถึงยังสามารถให้คุณทำกำไรเมื่อวันที่ตลาดกลับมาสดใส

บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด(มหาชน) ภูมิใจเสนอหลักสูตร ลงทุนหุ้นให้รวยด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค(ภาคปฏิบัติ) วิทยากรโดย คุณนพดล พิริยวุฒิ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน) ในวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2552 ณ ซีเอ็ดเลิร์นิ่งเซ็นเตอร์ อาคารจัตุรัสจามจุรี อัตราค่าสัมมนา ท่านละ 3,500 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) รับส่วนลดทันที 10% และรับคูปองซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์มูลค่า 100 บาท เมื่อชำระเงินก่อนวันสัมมนา สนใจสำรองที่นั่งติดต่อ คุณชยุต จึงภักดี โทร 089-691-8438 หรือสำรองที่นั่งผ่านทางอีเมล์ chayut@se-ed.com