วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

STEEL ที่สุดแห่งปฏิหารย์


งานนี้ผมเองยังเสียดาย เห็น STEEL ที่ราคา 1.71-1.91 ยังไม่สามารถคว้าไว้ได้ มาวันนี้ด้วยข่าวจ่ายปันผล 0.2 บาทต่อหุ้น และการลดสัดส่วนของผู้บริหาร ทำให้ราคาถึงเก็งกำไรกันมาถึง 3.96 แรงมาก ครับ ใครกล้าซื้อแล้วออกให้ทันจะได้ตังค์ครับ ส่วนใครที่ติดอยู่ก็ขายได้แล้ว เพราะราคาขนาดนี้ถึงว่าเป็นปฏิหารย์จากความโลภแบบสุดโต้งครับ... ล่าสุดดันกันไปถึง 6.85 บาทแล้วครับ สุดยอด

PTTAR เป้าหมายใหม่เป็น 30 +++


ราคาหุ้นเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มลุ้นต่อได้ถึง 30++ หรือถ้ายาวกว่านั้นอาจจะทำนิวไฮที่ 50++ มีความรู้สึกว่าก่อนควบกิจการจะต้องไล่ราคาให้สุดโต่ง ก่อนถล่มเหมือนกรณี ATC + RRC ลากยาวถึง 70-80 บาท แล้วสุดท้ายทำลงมาถึง 6.50 บาทได้ ใครซื้อไว้รวยแล้วครับ

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

MCOT ราคาต้องลุ้นสู่ 26-30

อสมท. งานนี้ไปยังไม่ถึงเป้าหมาย ที่นักวิเคราะห์ใ้ห้ไว้ ที่ 28 ++ รอหน่อยนะครับ

EGCO ของดีที่ต้องซื้อเต็มพอร์ต

บมจ.ผลิตไฟฟ้า EGCO วัีนนี้ไปช้านะ จริงๆ ต้องเกิน 90 บาทไปตั้งนานแล้ว เพราะ กำไรต่อหุ้นมันมากกว่าที่ราคาจะอยู่แถวนี้

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

setindex 2009 ย้อนหลังถึง dec 2006

ลองมาดูภาพดัชนีหุ้นไทย ย้อนไปถึงปี 2006 จะเห็นว่า ดัชนีสูงสุดคือ 900 ++ จุด และลงไปถึง 300 ++ จุด มาวันนี้ 715 จุด นี่คือโอกาสของการลงทุนครับ แล้วแต่ใครจะมอง..

วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552

THAI รอบนี้มีคนรวยจากเครื่องบิน

ในรอบหนึ่งปี ใครซื้อการบินไทยไว้ แล้วไม่ขาย น่าจะกำไรมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ นี่แหละคือเรื่องของการลงทุน กำไรไร้ขีดจำกัด แต่ขาดทุนก็เช่นกัน เหรียญมีสองด้านเสมอ

เมื่อไรการบินไทย (THAI) จะเดินหน้าสู่ระดับราคา 45-50 บาทดังเช่นสองสามปีก่อนสักทีครับ เป็นคำถามที่อยู่ในใจนักลงทุนทุกท่านที่ติดหุ้นการบินไทยอยู่ วันนี้เมื่อรู้ปัญหาการขาดทุนแล้วว่าเกิดจากภายใน มิใช่เรื่องเศรษฐกิจ น่าจะไขได้เร็วๆ นี้นะครับ หวังว่าปี 2010 จะได้เห็น ราคา เหนือ 30 บาท

นักลงทุนไทย เป็นคนไทย ต้องมีหุ้นการบินไทย ถ้าเราคนไทยไม่ซื้อ มันอาจจะตกเป็นของต่างชาติเช่นหุ้นสื่อสารบางตัว อย่างไรก็ตาม คนไทยควรร่วมใจกันถือหุ้นที่เป็นสมบัติของแผ่นดินครับ(นักลงทุนไทย)

TTW ระยะเวลาหนึ่งปีที่เก็บหุ้นยาวนาน

กราฟในรอบหนึ่งปีของ TTW ที่ทุกคนต่างเฝ้ารอว่าเมื่อไร จะถึงวันที่ราคาไปยืนบริเวณ 4.6-5.0 บาทเสียที รายใหญ่ช่วยดันกันหน่อย หุ้นดีๆ ไม่ยอมเล่นกันเลยครับ

ในที่สุด TTW ก็เดินหน้าฝ่าด้าน 4.20 มาได้อย่างมั่นคงแล้ว ด้วยแรงเชียร์ งานนี้อาจจะเห็น 5.00 บาทก่อนสิ้นปีเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับนักลงทุนที่รอคอย คุณเลือกหุ้นตัวนี้ถูกแล้ว ราคาวันนี้ปิดที่ 4.24 พรุ่งนี้ 18 dec 2009 น่าจะเห็น 4.30 บาทได้ครับ

Today 2009/12/18 เป็นไปตามคาด นำ้ประปาไทย วันนี้ ดันทะลุ 4.30 บาทได้สำเร็จ ใครขายไปแล้วไปมองหาตัวใหม่ได้เลย ครับ อาจจะไม่ลงไปให้ซื้อแล้ว เพราะน่าจะดันไปให้เกิน 5.00 บาทก่อน ครับ ใครขายแล้ว + ขอบอกว่าเสียดาย

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

KYE สูงสุดคืนสู่สามัญ ใครหนีไม่ทัน ติดยอดดอย

เอาภาพกราฟมาให้ดูครับ เพื่อเตือนสตินักลงทุนที่ชอบตามแห่ เมื่อราคาพุ่งสูงแบบไม่หยุด อย่าง KYE กันยงอิเลคทริก แม้จะกำไรต่อหุ้นสูง แต่ราคาก็ยังไม่น่าเกิน 120 บาท เมื่อเร็วๆ นี้พุ่งไปถึง 298 บาท ผมยังเสียดายที่ไม่ได้ซื้อ แต่ก็หนักแน่นพอที่จะไม่ซื้อที่ราคาสูงกว่า 200 เพราะวันนี้เหลือไม่ถึง 190 บาทแล้ว ถ้าใครซื้อขาดทุนไปแล้ว 108 บาทจากราคาสูงสุด เพราะฉะนั้น ไม่มีทางที่หุ้นจะขึ้นขาเดียวอย่างแน่นอน สัจธรรม

CPF คือภาพอนาคตของ CFRESH และ ASIAN

ภาพการเคลื่อนไหวราคาของ CPF เห็นแล้วคงมองออกว่าหุ้นที่ไล่ขึ้นไปจน RSI อยู่ที่ระดับเกือบ 80 คือยอดดอยของรอบ แล้วมันก็ตกลงมาอยู่แถว 10.20 บาทจาก 11.60-12 บาท

CFRESH, ASIAN เทคนิคส่งสัญญาณ ขาย ระวังติดยอดดอย



เตือนด้วยความห่วงใย เพื่อไม่ให้ติดหุ้นราคาสูง ทั้ง ASIAN และ CFRESH เล่นสไตล์เดียวกัน เจ้ามือกำลังแจกหุ้น ทางเทคนิค บอกให้ขายได้แล้ว รอไปอีกสามเดือนค่อยมาดูว่าจะจ่ายปันผลเท่าไร ค่อยเข้าไปซื้อใหม่ครับ สถานการณ์ยังไม่แน่นอน กุ้งราคาเป็นอย่างไร ต้องติดตาม ขึ้นมาได้ไกลพอสมควรแล้วทั้งสองตัว ถ้าไม่เชื่อลองดู KYE จาก 298 วันนี้เหลือ 178 หายไป 120 บาทแล้วครับ...

DTAC ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

ในที่สุด 3G ก็ต้องรอต่อไป ทำให้หุ้นสื่อสาร TRUE, ADVANC, และ DTAC ร่วงทันทีกว่า 10 % จากเดิมที่ 36-39 บาท ปัจจุบันเหลือ 31.25 บาทแล้ว มีโอกาสลงทดสอบ 28 บาท ต่ำกว่า 30 BUY... แล้วปีหน้ามาขายกันใหม่ที่ 40 บาท กำไรเห็นๆ ครับ

EGCO ขึ้นตามเทคนิค เป้าหมาย 94 บาท

บมจ.ผลิตไฟฟ้า หลังจากลงไปทดสอบที่ระดับราคา 73.50 บาท ไม่หลุดลงไป เลยฟื้นขึ้นมาสู่ระดับ 78.25 ได้ ราคานี้สูงสุดในรอบ 3 เดือน น่าสนใจ เทคนิคสวย ราคาต่ำเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน PE แค่ 5 เท่า กำไรต่อหุ้นสูง 12.69 บาท หนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้นแค่ 0.3 ปลอดภัยสุดๆ (ซื้อทันที) ถือไปจนกว่าจะเกิน 100 บาท ดูจาก KYE เป็นตัวอย่างครับ

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ESSO ต่ำกว่า 6.40 ซื้อ


หลังจากลงมาหลายเดือนจาก 8.15 สู่ระดับ 6.35 ในวันนี้ ราคาESSO เริ่มน่าเก็บ เพราะกำไรต่อหุ้นยังมากกว่า 1.50 บาท แน่นอนอาจจะมีปันผลอีกงวดที่ 0.75 บาท หลังจากจ่ายไปแล้ว 0.25 บาท ผู้บริหารค่อนข้างเหนียวไปนิด จ่ายน้อยมา แต่ก็เพื่อความมั่นคง ของบริษัท อย่างไรก็ตาม มีปันผลแน่ ซื้อแถวๆ 6.30 ลงไป ก็ได้ปันผลรวมทั้งปีมากกว่า 10% สุดคุ้มแล้ว

DTAC ลงตามคาด

หุ้น DTAC เป็นหุ้นที่เล่นง่าย ครับ ถ้าตำ่กว่า 30 จะต้องหาทางซื้อ แต่ยังไม่ขึ้นเร็ว ตอนนี้ก็น่าจะอยู่ในช่วงขาลงไปที่เดิม 30-28 บาท ใครมีติดไว้ ก็ต้องถือหรือรอซื้อเพิ่ม ยังไงปีหน้าก็เอาตัวรอดไปได้ครับ ไม่ต้องห่วง มีขึ้นก็มีลง อย่าท้อครับ เข้าผิดจังหวะเช่น คนที่ซื้อ 40 ++ ก็ต้องรอไปอีกหลายเดือน แต่ยังได้ปันผลมาชดเชยขาดทุน แต่ทางที่ดีต้องซื้อต่ำขายสูง มิเช่นนั้น จะไม่ได้อะไรเลยครับ ดูจากกราฟ อาจจะมีรีบาวน์นะ ขึ้นขายไปก่อน รอรับแถว 30-28 บาทครับ

ASP น่าสนใจ หาจังหวะวันลบหนักๆ เข้าได้

บมจ. บล.เอเซียพลัส (ASP) ปีนี้รายได้ค่อนข้างดี กำไรเพิ่มขึ้นมาก น่าจะจ่ายปันผลอีกงวดหนึ่ง ประมาณ 0.13 บาท ราคาคงไม่ต่ำกว่า 1.5-1.60 วันไหนลงแรงๆ ก็น่ารับไว้สักหน่อย เล่นพอหนุกๆ ครับ ราคาปีหน้ายังไงก็น่าจะยืนเหนือ 2 บาทได้ชัวร์

EGCO เทคนิคฟื้น แต่ไม่ไล่ราคา


บมจ. ผลิตไฟฟ้า วันนี้บวกได้เล็กน้อย ด้วยภาพกราฟทางเทคนิคที่ฟื้นตัวขึ้น แต่ยังไม่ขึ้นไปไกล ต้องรอผ่าน 78 บาทไปได้ก่อน ช่วงนี้ซื้อได้ เพื่อรอรับเงินปันผลที่น่าจะให้มากกว่าปีก่อน ที่ 5 บาทต่อหุ้นอย่างแน่นอน น่าจะได้ สัก 7.50 บาท จ่ายไปแล้ว 2.5 บาท เหลืออีก 5 บาท ไงราคาไม่น่าต่ำกว่า 70 บาท ในช่วงเวลานี้ เพราะสังเกตว่าถ้า SET INDEX ตก หุ้น EGCO จะราคาพุ่งไปเกือบ 90 บาท แต่ด้วยกำไรมากมายในปีนี้ อาจจะไปได้ 120 บาท (หวังไว้)

ภาพ SET ขาลง เต็มร้อย อย่าประมาท อาจจะลงลึกถึง 650 จุด

เมื่อลองดูกราฟการเคลื่อนไหวของเซต ย้อนหลังไป 3 เดือน จาก settrade.com แบบคร่าวๆ ค่าเฉลี่ย sma 5 วัน กำลังเคลื่อนทางลง ไปเรื่อยๆ ประกอบกับ rsi ยังเหนือ 50 ซึ่งอาจจะเจอแรงขายหนักเมื่อ rsi ตำ่กว่า 50 ลงมา จะซื้อต้องตั้งรอ ไม่ต้องรีบ เก็บเงินสดไว้มากๆ รอตุนของรอบต่อไป ดู rsi ต่ำกว่า 30 ค่อยมาตั้งซื้อกัน ตอนนี้ใครมีกำไร ขายไปก่อนจะดีที่สุด

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ขายหุ้นแล้ว มองหาหุ้นตัวใหม่ทำอย่างไร

เชื่อว่าหลายคน ได้ขายหุ้นออกไปจำนวนหนึ่ง จะถือเงินสดไว้เพื่อรอเข้าซื้อรอบต่อไป แต่จากประสบการณ์พบว่าในทุกสภาพตลาดจะมีหุ้นที่สามารถขึ้นได้ อยู่เสมอ อย่างเช่นเมื่อวาน ดัชนีลดลง 5 จุดกว่าๆ แต่มี หุ้นขึ้นชนเพดานได้ นั่นคือ ASIAN และ CFRESH ก็เป็นตัวตามที่เกือบเหมือนกัน จะเห็นว่าในสภาพตลาดน่ิ่งๆ หุ้นใหญ่ตระกูล PTT ราคาดิ่งลง จะเห็นหุ้นพวกสามตัวสิบ แต่คุณภาพการทำกำไรไม่น้อยหน้าหุ้นใหญ่

แต่เมื่อมันขึ้นได้เร็ว มันก็อาจจะทรง หรือลงได้เร็ว แต่ด้วยกำไรต่อหุ้นที่ยังดี อาจจะไม่ลงเร็วนัก ส่วน ASIAN ผมไม่แน่ใจ เพราะหนี้สูงมาก 3,000 กว่าล้านบาท ขณะที่ส่วนผู้ถือหุ้น แค่ 1000 กว่าล้านบาท ส่วน CFRESH ใช้ได้ครับ ไม่น่ากังวล ผมคิดว่าคนที่ซื้อไปเป็นการเก็งกำไรหรือไม่สามารถทำราคาหุ้นใหญ่ได้ เลยลุยหุ้นเล็กไปชั่วคราว เพราะผลประกอบการที่ค่อยๆ ฟื้นตัว แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีอุปสรรคเกี่ยวกับการส่งออกเข้ามาทำให้หุ้นลงอีกหรือเปล่า เพราะตอนนี้ราคาสูงใช้ได้

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

CFRESH, ASIAN ทะลุแนวต้าน อย่างน่าประทับใจ

วันนี้ปิดตลาดได้สวยทั้งสองตัวครับ ASIAN ปิดที่ 2.98 บวก 30% ชนซิลลิ่ง และ CFRESH ปิดได้ที่ 4.00 บาท เหมือนที่เคยเขียนแนะนำกันไว้ ถ้าใครซื้อทั้งสองตัวนี้ไว้ตอนสองเดือนก่อน ลงทุนแค่ไม่กี่แสนบาท ต้นนี้น่าจะได้กำไรมากกว่าสองร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เชื่อกันว่า 1 ใน 10 คนที่จะได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วย ส่วนมากจะขายไปเมื่อราคาขึ้นมาสัก 10-30% เพราะเป็นช่วงที่ยังไม่แน่ใจว่ามันจะไปต่อได้หรือไม่ กลัวติดหุ้นอีก เนื่องจากหุ้นกุ้งเหล่านี้ตกต่ำมานานมาก ไม่ตำ่กว่า 5-7 ปี การขึ้นรอบนี้มีความหมายสำหรับคนที่ติดสูงๆ และหุ้นจะถูกเปลี่ยนมือ ใครออกตัวไม่ทัน เมื่อยอดขายกุ้งกลับมาตกต่ำอีกครั้ง จะส่งผลต่อราคาหุ้นให้ตกลงมาอีก จึงถือได้แต่ต้องไม่รีรอเมื่อมีเหตุการณ์ที่ต้องทำให้ราคากุ้งตกต่ำ การกีดกันทางการค้าต่าง ๆ หุ้นเหล่านี้จึงเล่นกันเป็นรอบๆ และรอบนี้มาถึงแล้วครับ ขอให้รวยๆๆ และรับปันผลปีหน้าอย่างเต็มที่


หุ้นที่น่าเก็บสะสม เพราะมีหนี้สินน้อย

คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า การลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยง แต่ถ้าเรามีความรู้และข้อมูล ความเสี่ยงนั้นจะถูกจำกัดไว้ ไม่ให้เราเสียหาย หรืออาจจะไม่เสียหายเลย ช่วงนี้หุ้นอาจจะกำลังเดินทางลงมา 640 จุด มีหุ้นดีหลายตัวกำลังจะลดราคาลงมาให้ซื้อ เข้าพอร์ต แต่จะซื้ออย่างไรไม่ให้ผิดหวัง

สิ่งแรกที่ต้องดูคือ กำไรสุทธิและอัตราเงินปันผล ถ้าไม่มีทั้งสองอย่าง ให้่ผ่านไปก่อน หรือบางตัวเคยมีแต่วันนี้ไม่มีเงินปันผลอย่างเช่น THAI เราก็ต้องเว้นวรรคไว้ช่วงหนึ่ง รอจนกว่าจะจ่ายเงินปันผลได้

ต่อมาดูหนี้สินเพ่ือความสบายใจว่าหุ้นนั่น ไม่ได้อยู่ได้ด้วยหนี้สิน เพราะมันอ่อนแอเกินไป สำหรับการลงทุน ถ้าหนี้สินต่ำกว่าส่วนของผู้ถือหุ้น หมายความว่าคุณเป็นเจ้าของหุ้นจริง เม่ือซื้อหุ้น ไม่ได้ซื้อหนี้มาเก็บ...

เท่าที่ดูจากข้อมูลตอนนี้ ผมเลือก EGCO, CFRESH, SSF, DRT, TUF, EASTW, ASP, LH , MCOT, BEC ค่อนข้างจะปลอดภัยครับ ส่วนราคาที่จะซื้อ ต้องใช้กราฟทางเทคนิคช่วยดู แต่ไม่ต้องรีบร้อน หุ้นยังขาลงอยู่ รอได้จะได้ราคาถูกลงครับ..

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

หุ้นกำลังจะลงแรง ในหลายๆ ตัว ต้องรีบขาย

จะเห็นได้จากอาการหุ้นหลายตัว ที่แสดงอาการจะปรับลงแรงๆ ในเร็วๆ นี้ และวันนี้เพิ่งเป็นการเริ่มต้น ใครช้าติดหุ้นนะ จะบอกให้ รีบขายครับ ตัวที่เป็นเป้าหมายในการขาย คือ CPF , CPALL, DTAC, PTT, PTTEP, SCC, KBANK, BBL, SCB, KTB, SSF, CFRESH, KYE, PR124, TTA, หรือตัวที่ขึ้นมาไกลๆ ราคานี้เป็นราคาคาดหวังกำไรจะดี เศรษฐกิจจะฟื้น แต่เหตุการณ์บ้านเมืองในปลายเดือนนี้ การชุมนุม สร้างความกังวลถึงเสถียรภาพรัฐบาลอยู่นะครับ ถอยก่อนดีกว่า

เลือกหุ้นแม่นยำ ทำอย่างไร


มาถึงวันนี้ ที่ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 700 บวก เชื่อว่าเมื่อย้อนไปหกเดือนก่อน ไม่มีใครอยากซื้อหุ้น เพราะดัชนีอยู่แค่ 300-400 จุด เท่านั้น และนี่คือกฏแรกที่ชาวหุ้นต้องย่อมรับ เมื่อหุ้นมีขึ้นก็ต้องมีลง และเมื่อลงได้ ก็ขึ้นได้

รอบนี้คิดว่ามีเศรษฐีใหม่จากการตัดสินใจนำเงินมาลงในหุ้น ผมขอยกตัวอย่างเช่น CPF ลงทุนที่ 3.00 บาท มีของขายมากมาย ถ้าซื้อ 100,000 หุ้น เมื่อหกเดือนก่อน ใช้เงิน 300,000 บาท ลองมาดูราคาวันนี้สิ 11.40 บาท คุณได้เงินไป 1.14 ล้านบาท กำไรจากราคาส่วนต่าง ถึง 840,000 บาท คิดเป็น 2.8 เท่าของเงินลงทุน เสน่ห์ของตลาดหุ้นคือตรงนี้

เงินทองไม่ต้องมีมากแต่สามารถทำกำไรได้ถ้าเลือกหุ้นถูกตัว ถูกเวลา แต่การจะตัดสินใจเลือกนี่สิ ยากที่สุด เพราะอนาคตคืิอผลของปัจจุบัน ผลคือผลการดำเนินงานที่ต้องดีต่อเนื่อง และเติบโตเกินคาด แต่ใครจะหยั่งรู้ได้

สิ่งหนึ่งที่ใช้ประกอบการคือ ตัวเลขทางการเงิน กราฟทางเทคนิค อย่างปัจจุบัน ผมมองตัว EGCO ที่มี PE ต่ำแค่่ 5.6 เท่า และกำไรต่อหุ้นสูงถึง 12.6 บาท ต่อหุ้น แต่ราคาอยู่ที่ 74.00 บาท เท่านั้น ลองนึกถึงตัว KYE เช่นกัน พอกำไรต่อหุ้นสูงมาก ใครละจะไม่อยากได้ เพราะฉะนั้น เวลานี้เอาเงินไปลงในหุ้น EGCO ผลิตไฟฟ้าน่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าฝากธนาคารและปลอดภัยในระยะปี

สรุปว่า เลือกหุ้นให้แม่นยำ เป็นศาสตร์และศิลป์ ที่แวดล้อมด้วยหลักทางการเงิน ข้อมูลและกราฟทางเทคนิค ที่ทุกท่านสามารถค้นหาได้จาก settrade.com ทุกคนมีข้อมูลเท่าๆ กัน แต่ใครจะถอดรหัสได้ ก็เท่านั้น


วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

JUBILE หุ้นน้องใหม่ต้องลอง


สำหรับท่านที่มีเงินสดเหลือ ลองเข้ามาพิจารณาหุ้นขายเพชร เครื่องประดับอย่าง JUBILEE กันบ้างก็ดีครับ เพราะผมเพิ่งซื้อไป ด้วยเหตุผลที่หุ้นตัวนี้ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลทันที 9% โดยจ่ายปันผลที่ 0.29 บาท/หุ้น ถ้าคิดเทียบจากราคาจอง ที่ 2.80 บาท ก็ได้มากกว่า 10% แต่อย่างไรก็ตาม ผู้จองยอมต้องขายที่ราคาบวกเงินปันผล คือ 2.80+0.29 หรือ 3.09 บาท :ซึ่งรอบนี้ลงต่ำที่ 3.14 บาท ก็ถือว่าอยู่ในความเสี่ยงที่รับได้ครับ กำไรไตรมาสสามก็ออกมาดีและราคายังไม่มี record สามารถลุยได้เต็มๆครับ

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

หลายปัจจัยยังรุมเร้า ให้ wait & see

set index วันนี้ เปิดมาบวกไปได้สองจุดกว่า ๆ คิดว่าไม่น่าจะไปได้ไกล เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายหายไปมาก ส่วนใหญ่ไปเก็งกำไรในผลการดำเนินงานไตรมาสสามมากกว่า หลายตัวทำได้ดีกว่าที่คาด แต่ต้องมองไปข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น ทำให้ราคาไม่น่าจะไปไกลกว่านี้มากนัก รอจังหวะซื้อเมื่อตลาดเป็นลบรุนแรงดีกว่าครับ

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

หุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคลุ้นขึ้นได้คือ TTW



เท่าที่ได้ค้นหาหุ้นที่พื้นฐานดีและสามารถลุ้นทางขึ้นได้ ด้วย ROC หรือ macd เป็นบวก ก็มี TTW น้ำประปาไทย แต่คนลงทุนไม่ค่อยไล่ราคา จึงอาจจะขึ้นแบบช้าๆ ในช่วงแรก แต่ระยะปลายเมื่อเกิน 5.00 บาทขึ้นไป ก็จะยืนขายไปสักระยะ คล้ายกับ CPF ที่ขึ้นมายาวและยังยืนขายอยู่ ถ้ามีขายแล้วเลิกดูไปก่อนครับ สำหรับ CPF peak ปีนี้แหละ ใครเข้าตอนนี้ เจ็บแน่ ไปเข้า CFRESH ดีกว่า ยังได้ลุ้นขึ้นไปยืน 3.3-4.0 บาทมากกว่าครับ กำไรก็น่าจะดีด้วย

กลยุทธ์แบบเลือกตัวหุ้นที่ปันผล

ในสภาพไร้ทิศทางของตลาดหุ้นเช่นนี้ สามารถเลือกใช้กลยุทธ์ดูหุ้นจากปันผล หุ้นตัวไหนให้ผลตอบแทนทั้งปีมากกว่า 6% ขึ้นไปเป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องจับตา และดูว่าราคายังต่ำอยู่หรือไม่ ห่างจากจุดสูงสุดที่เคยทำได้ตลอดการซื้อขาย เท่าไร

ผมคิดว่าหุ้นที่น่าสนใจตอนนี้ คงจะเป็น cfresh , hmpro, ttw, bla, asp, เป็นหุ้นที่ราคายังต่ำอยู่เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน ส่วน DTAC, Advanc ก็หาจังหวะลงแรงๆ ซื้อไว้ได้ ในแง่ปันผล ADVANC ดีกว่า DTAC มากมายครับ

วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

set index 20091102 เข้าเขตขายมาเกินไป


รอดูทิศทาง ให้ดีครับ แต่สำหรับตัวที่มีผลการดำเนินงานดีๆ ก็ปรับตัวขึ้นได้อย่าง TTW นำ้ประปาไทย ประกาศผลการดำเนินงานกำไรมากกว่าเดิมนิดหน่อย ราคามายืน 4.22 ได้ใครขายเช้าไปเสียของหมดเลยครับ.. ระวังกันหน่อยครับ ของดีต้องไม่ขายครับ

set index กำลังอยู่ในช่วงขาลง ห้ามซื้อเด็ดขาด


เมื่อเช้าเปิดมา ดัชนีก็ทรุดทันที แบบไม่สนใจราคาเปิด ทิ้งช่องว่างไว้มากเลย งานนี้คงต้องนั่งดูนอกกระดานไปก่อน สะสมเงินสดไว้ ที่ติดอยู่ตัวไหนมีกำไรขายให้หมด สัญญาณทางเทคนิคบอกว่าลง คงต้องมีข่าวร้ายๆ ตามมาในเร็วๆ นี้ครับ รอดู เม่ือไรข่าวร้ายที่ทำให้ ดัชนีหุ้นไทยร่วงเปิดเผยออกมา ราคาคงจะตำ่กว่านี้อีกอย่างน้อยก็ 10-30 % แล้วแต่หุ้นด้วยครับ ดูหุ้นปันผลดีๆ ไว้ แล้วเลือกชอปเมื่อถึงเวลาครับ

ROC -
%K%D ดิ่ง
ค่าเฉลี่ย 5 day ดิ่ง

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

KYE กันยงอิเล็กทริก the best new high price.

ราคาตำ่สุดเท่าที่เห็นในรอบสามเดือน 57-60 บาท ลากไปด้วยข่าวแตกพาร์ แต่ด้วยกำไรที่สูงมากในปีนี้ทำให้ราคาไปทำสูงสุดในรอบที่ซื้อขายกันมาที่ 298 เกือบถึง 300 โอ..ทำไปได้ แต่เป็นหุ้นที่สุดยอดแห่งปี 2009 ในภาวะที่ตลาดไม่เคลื่อนไหวไปไหนไกลแต่ KYE ทำได้สวยจริงๆ นับถือ และเสียดายที่ไม่ได้ซื้อตั้งแต่ 60 บาทเห็นอยู่เต็มจอ..

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ถึงเวลาของ TTW แล้วครับ


เมื่อเช้านั่งดูการซื้อขายของหุ้น น้ำประปาไทย TTW ที่ทำนักลงทุนขาดทุนกันมาหลายสัปดาห์ วันนี้ได้ฤกษ์เดินหน้าแล้ว ฝ่าด่าน 4.20 มาได้ ยืน 4.30 เมื่อไร วิ่งแรงและเร็วไปยืนแถว 5 บาทแน่นอนชัวร์ ไม่น่าเกินสิ้นปีได้ขายแถวๆ 5 บาทแน่ ประกอบกับแรงเชียร์ของโบรกเกอร์ทุกค่าย ให้ ซีื้อ ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 5.6 บาท แล้วใครจะขายละครับ คิดดูกัน ถึง 5 บาทก็ปล่อยของไปบ้าง ให้รายใหญ่เค้าลากต่อไปอีกนิดหน่อย เมื่อไรเขาเทขาย ก็ค่อยมารับกันแถว 4.0 บาทอีกรอบครับ...

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ไร้ทิศทาง wait & see

ช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยจะเดินหน้าก็ไปไม่ไกล ถอยหลังก็ไม่มาก จึงเป็นช่วงเวลาแห่งการยืนดู wait & see เป็นช่วงเวลาที่ไปเก็บหุ้นปันผลกันเถอะ เพราะหุ้นเก็งกำไรราคาจะไม่เคลื่อนไหวมากนัก และเป็นช่วงเวลาที่คนเข้าซื้อผิดเวลาต้องเจ็บปวดและ พากันมอบตัวขายคืนให้รายใหญ่ไป มีเงินถือรอเพื่อซื้อของถูกในอนาคตครับ หรือเก็บตัวที่สัญญาณรายเดือนเป็นบวก และมีเงินปันผลสูง น่าจะไม่สวิงมากนัก แต่ถ้าไม่เล่นดีสุดๆ เพราะไม่ต้องเสียค่าคอม รอจนกว่า RSI ของ SET INDEX จะตำ่กว่า 25 แล้วค่อยกลับมาซื้อหุ้นหลัก

วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

SET INDEX วันนี้เดินหน้าต่อหรือเตรียมถอย

หลังจาก SET INDEX บวกสองวันติด มาปิดที่ 731 ได้ ด้วยมูลค่าการซ้ือขายเกือบสามหมื่นล้านบาท ก็น่าสนใจครับ ว่าวันนี้ SET INDEX จะไปในทิศทางใด แต่ภาพรวมของต่างประเทศ ยังเขียวทุกตลาด ส่วนต่างชาติขายเล็กน้อยเมื่อวานนี้

แนวต้านที่สำคัญคือ 740 จุด ส่วนใหญ่การลงหนักๆ อย่างสัปดาห์ก่อน มันทำให้สัญญาณทางเทคนิคกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง แต่มันลงเร็วไป จึงมีการรีบาวน์ กลับ แต่ยังไม่น่าไว้ใจว่าจะไปไหนได้ไกล เพราะดูแล้วบ้านเมืองเรายังมีเรื่องต้องกังวลอยู่เยอะครับ ก็ทยอยขายออกไปเพื่อถือเงินสดรอรับเมื่อวันที่หุ้นตกหนักๆ อีกครั้งครับ

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2552

โอกาสในข่าวลือ

เชื่อว่าหลายคนคงได้เห็นสถานการณ์ที่ดัชนีตกลงอย่างรุนแรง รวดเร็ว ในวันเดียวสามารถลงได้ถึง 60 จุด ก่อนที่จะมาปิดได้ที่ ลบ 30 กว่าจุด เพียงเพราะการใช้ข่าวลือในการผลักดันให้เกิดการ บังคับขายของกลุ่มลูกค้าที่เล่นด้วยเงินกู้ นี่คือรูปแบบที่ยังเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในวงการหุ้นไทย

แต่ในเมื่อมันเกิดได้ เราต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ด้วยการสร้างโอกาสจากตลาดหุ้น ที่มีข่าวลือ เราไม่สวนทางกับตลาด แต่เราก็ไม่ตื่นตระหนกจนขายหุ้นซะหมด แล้วมาน่ังเสียดายทีหลัง เพราะมันกลับขึ้นมาเท่าเดิม

วิธีการคือ ก่อนเกิดข่าวลือเพื่อให้ขาย และเข้าซื้อหุ้นจะเกิดกับตลาดขาขึ้นที่ทุกคนไม่ยอมคายหุ้นออก หรือขายออก เพราะทุกบทวิเคราะห์ยังเชียร์ให้ถือต่อไป แต่ถ้าไปดูกราฟทางเทคนิคแล้ว ด้วย RSI ทีมากกว่า 85% ยอมหมายถึงว่า มีการซื่้อมากเกิน และการขายจะต้องตามมาในเร็ววัน ซึ่งเหตุปัจจัยที่จะมากระตุ้นให้เกิดการขายก็คือข่าวลือ ซึ่งใครปล่อยก็ไม่ทราบ อาจจะเป็นทุกคนช่วยกันกระจายข่าวไม่ดีกันเอง

สิ่งที่ควรทำคือทุกครั้งที่ตลาดหุ้นขึ้นไปมากๆ และสัญญาณทางเทคนิคบอกว่า :ซื้อมากเกินไป ควรขายออกไปครึ่งหนึ่ง แล้วรอ วันที่จะมีข่าวทำให้หุ่้นตกลงมา เพื่อซื้อกลับมาในราคาถูก แต่ย้ำว่าต้องซื้อกลับ เพราะคุณอาจจะเสียหุ้นไปเลย เพราะในอนาคตมันจะทะยานขึ้นไปสูงกว่าที่ขายก็ได้ ถ้าอะไรๆ ยังดีอยู่ครับ

วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2552

หุ้นไทยจะไปถึง 800 ภายในเดือนตุลาคมนี้

น่าสนใจครับ สำหรับหุ้นไทยที่พุ่งขึ้นทุกวัน สลับตัวกันขึ้นไปเรือยๆ เงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศยังหนาแน่น โอกาสตกลงยังไม่มีให้เห็น ถือหุ้นต่อไปครับ รับรองรวยทุกคนครับ

หุ้นแนะนำที่ยังต่อถือรอราคาพุ่งแรง ช่วงนี้ถือเป็นช่วงสะสมของ เริ่มที่ น้ำประปาไทย TTW ราคาไม่ขยับไปไหน เอาหุ้นมาขายกันตลอดทั้งวัน แต่ก็มีแรงซื้อ อาการเช่นนี้บอกว่า กำลังสะสมของ แล้วจะดันราคาขึ้นอย่างรวดเร็วภายในอีกไม่กี่วันนี้ ตอนนี้ราคา 4.14-4.18 บาท ด้วยพื้นฐานที่ดีมาก ราคาขนาดนี้ใครจะขาย ถ้าไม่ใช่เป็นการขายเพื่อหลอกให้รายย่อย คายหุ้นที่ถือออกมาให้มากที่สุด ใครทนได้ ก็รับกำไรไป ใครรอไม่ไหวก็ต้องขายออกมาให้รายใหญ่เอาไปกิน

ส่วน CFRESH ที่แนะกันไว้ ราคามาที่ 2.46 แล้ว เหมือนรายใหญ่รู้ตัว ว่ามีคนเข้ามาซื้อเยอะ เอาหุ้นมาดักไว้ 2ล้านหุ้น ที่ 2.52 กะไม่ให้ผ่าน เพื่อเก็บของแถวนี้ ตำ่กว่า 2.50 บาทไปอีกระยะหนึ่ง แต่สัญญาณทางเทคนิครายเดือนบอกว่ารอบนี้ขึ้นยาว เป็นปี ใครขายไปแล้วเสียใจด้วยครับ

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552

CPF และ SSF เป็นตัวอย่างที่ดี


CPF สัญญาณซื้อรายเดือนมาตั้งแต่ตอนราคา 5.00 บาทครับ
ส่วน SSF ก็มาตอนราคา 2.3 บาทเองครับ ตอนนี้มาไกลดีมาก รวยกันทุกคน ลุ้นปันผลอีกมากมาย

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552

CFRESH กับสัญญาณซื้อระดับเดือน

วันนี้เองที่ CFRESH สามารถปิด 2.34 ได้สำเร็จ จนกราฟรายเดือน มีสัญญาณซื้อเขามาอย่างชัดเจนเมื่อ macd เป็นบวก ใครมีแล้ว กอดไว้ถึงปีหน้า 2553 อาจจะได้เห็นนิวไฮในรอบ 10 ปี แบบ ssf ที่ทำนิวไฮได้แล้วที่ 5.05 บาท อย่างน้อยก็ในรอบ 6-7 ปีที่ผ่านมา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ แถมปันผลให้มากกว่าปีก่อนๆ อีก

update ปิดเมื่อวันที่ 2-10-2009 ที่ 2.40 สามารถบวกขึ้นมาได้ตามที่สัญญาณทางเทคนิคบอกไว้่ ยังไปอีกไกล แนวต้านหลักๆ ช่ัวคราว คือ 2.78, 3.3, 3.58, 3.94 ถ้าทะลุไฮเดิมในรอบ 5 ปีได้ จะกลับมาจ่ายปันผลสูงมากอาจจะไปได้ถึง 10.00 บาทเลย เพราะเม่ือก่อนกำไรสูงมาก กะว่าเอาแค่ครึ่งเดียวพอครับ 5.00 บาทก็รวยแล้วครับ


วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

TTW หุ้นที่ต้องรอ แต่มั่นใจว่าราคานี้ กำไรร้อยเปอร์เซ็นต์




macd ยังใกล้ศูนย์ ราคาเหมือนสะสมหุ้นอยู่ อนาคตพบกันที่ 6.0 บาท ผ่าน 4.4 ไป ลุยเต็มพอร์ตได้เลย คนส่วนใหญ่ไม่ยอมรอครับ เลยไม่ได้กำไร วันนี้ซื้อเข้าไปที่ 4.14 ก็ยังโดนขายอยู่ 4.12 เป็นเรื่องธรรมดา ซื้อแล้วต้องลง ขายแล้วต้องขึ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะไปซื้อมันก็จะลงอีก เพราะหุ้นมีเท่าเดิม เพียงแต่ว่าเวลานั้น มันอยู่ในพอร์ตของใคร คนทำราคา หรือรายย่อย ต้องรอๆๆ

วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2552

เก็บ CFRESH ระยะยาว เป้าหมายใกล้ SSF


เท่าที่มองหาหุ้นในขณะนี้ ตัวที่เสี่ยงน้อย น่าจะเป็น CFRESH เพราะดูจากพื้นฐาน ผลการดำเนินงาน 5 ปี ย้อนหลัง กำไรดีมาก แต่ราคาแค่นี้ 2.30 ถ้าลงมาซื้อให้หมดหน้าตัก ครับ แถว 2.20 รับปันผลก็สุดคุ้ม อัตราผลตอบแทนมากกว่า SSF และ CPF ซื้อแล้วถือยาว ลุ้นแซง SSF ค่อยขายก็ยังได้ เพราะเมื่อก่อน ราคา CFRESH สูงกว่า SSF กะว่าจะซื้อให้ได้สัก 3 ล้านหุ้น ภายในปี 2553

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2552

CHART SET

rsi 84.19 เข้าเขตซื้อมากเกินไปครับ น่าจะขายกันต่อไป แล้วรอรับกันใหม่ที่ rsi ต่ำกว่า 40

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

ได้เวลา ขายแล้วครับ

เห็นสภาพการซื้อขายหุ้นวันนี้แล้ว ค่อนข้างชัดว่า ถึงเวลาขายแล้ว เพราะนักลงทุนระยะสั้น หรือกลุ่มเก็งกำไร เริ่ิมถอยออกจากตลาด วอลุ่มกำลังจะลดลง และจะมีคนจำนวนมาติดหุ้นอีกเช่นเดิม เหมือนทุกรอบ ใครกล้าขายเก็บเงินไว้ รอสถานการณ์ที่ชัดกว่านี้ก่อน ค่อยกลับเข้ามา ก็ยังไม่สาย และจะเป็นการทำถูกต้องด้วยซ้ำ

ส่วนใครที่ติดอยู่ถ้าเป็นหุ้นดี จะไม่ขายก็ไม่ว่ากันเพราะมีเงินปันผลให้อยู่ทุกปี แต่ราคาอาจจะแกว่งลงมาบ้าง อย่าหวั่นไหว ถือไปตลอดชีวิต ผลตอบแทนยิ่งมหาศาล อยากจะคาดการณ์ได้ ขอให้โชคดีและรอลุ้นว่า 19-sep 2009 จะเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยบ้่าง

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2552

เป้าหมายเซต 920 สำหรับรายเดือน



ภาพระยะยาวของเซต กำลังเดินหน้าสูงระดับ 920 จุด ภายในปีนี้หรือต้นปีหน้า รอลุ้นกัน

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

ตอนนี้จะซื้อหุ้นตัวไหน กลุ่มไหนดีละ เพราะหุ้นราคาต่ำๆ หมดแล้ว


11-sep-09 เวลา 9.15 น. ผมคิดในใจว่า ถ้าวันนี้ผมมีเงินสักก้อนหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นหลักหมื่นหรือหลักแสน หรือหลักล้าน จะเอาเงินมาลงทุนในหุ้น ผมจะซื้อหุ้นตัวไหนดี เพราะราคาตอนนี้มันก็สูงพอดู ดัชนีก็อยู่ 700 ++ แล้ว จะไปได้อีกแค่ไหน 800 , 900, 1000 ซึ่งยังไม่สามารถตอบได้

อย่างไรก็ดี การลงทุนมีจังหวะให้ทุกช่วงเวลา ตอนนี้หุ้นอาจจะขึ้นต่อไป ราคาหุ้นบางตัวอาจจะสูงเกินไป ก็ลงมา อย่างเช่น KYE ราคาวันนี้ 120 บาท สูงสุดในรอบการซื้อขายตลอดตั้งแต่เข้าตลาดมา ส่วนหุ้น TRUE ก็ตกต่ำสุด ตั้งแต่เข้าตลาดมา ตอนนี้เพิ่งขึ้นมาได้ 3.20 บาท (ผมเคยขายไปที่ 12 บาท)

ดังนั้นการซื้อหุ้นและขายหุ้น คงต้องใช้ข้อมูลพอสมควร และต้องใช้เวลากับการศึกษา อ่านข้อมูลทั้งที่ settrade.com และเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ด้วย

สรุปว่าวันนี้จะซื้อหุ้นตัวไหน ผมใช้เกณฑ์สองสามเรื่อง หนึ่งหุ้นมีปันผลหรือไม่ อัตราเท่าไร ถ้าต่ำกว่า 5% ไม่เลือก สองราคาตอนนี้ อยู่ในช่วงกำลังรีเทิรน์หรือสูงสุดแล้ว ถ้าอยู่ในช่วงรีเทิรน์ก็ซื้อได้ และอนาคตจะกำไรเพิ่มหรือลดลง พอเดาได้หรือไม่ และบริษัทนั้น เขาทำกิจการที่เราเข้าใจได้หรือไม่...

ถ้าตอบคำถามเหล่านี้ได้ ปิดประตูขาดทุนตลอดชีวิต รอบนี้ผมมอง HMPRO ที่ราคาต่ำกว่า 7.00 บาทเพราะมีลูกหุ้นให้และอนาคตอย่างไงก็ราคาสูงกว่า 5 บาทแน่นอน กำไรนอนมาเลยครับ

DTAC มาถึงเป้าหมายแล้ว 45 บาท

เมื่อวานใครที่ดูการซื้อขาย คงจะสะใจเหมือนผม และต้องขอชูนิ้วให้ หุ้น DTAC ที่วันนี้มาแรงแซงทุกตัวไป ด้วยราคา 45 บาท ที่บวกวันเดียว 5.25 บาท ครับ ผมเคยเขียนไว้ หุ้น DTAC คนที่คุมเกม มักจะอัดแรงช่วงปลาย เมื่อรอบก่อนก็เช่นกัน ลากไป 60 แล้วเดือนต่อมาเหลือ 30 กว่าๆ ต้องเตรียมตัวให้ดี เพราะเงินปันผลไม่สวย และยังมีความเสี่ยงเรื่องฟ้องร้องอะไรกันบ้างอย่าง ที่ทำให้ราคาวูบไปในรอบก่อนที่ 20กว่า ๆ ตอนนี้ใครมีผมว่าขายไปให้หมดแล้วรอรอบหน้า เมื่อข่าวร้ายมาเยือน DTAC อีกรอบ เพราะตอนนี้ทุกคนลืมชั่วคราวครับ

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

SET INDEX มาถึง 700 ++แล้ว

ในรอบปีเดียวเราเห็นดัชนีหุ้นไทย จาก 380 เกือบ 400 จนมา 700 จุดในวันนี้ 10-sep-2009 เห็นไหมครับ การลงทุนในหุ้น หากเข้าถูกเวลา นั้น รวยทุกคน ครับ ....

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

TMB ราคากลับมาสูงสุดในรอบ 1 ปี


ในที่สุดธนาคารทหารไทย ก็กลายเป็นหุ้นที่ลงทุนน้อยที่สุดแต่กำไรงามที่สุด ราคาล่าสุด 1.20 บาทจากตำ่สุด ในรอบหนึ่งปี 0.44 บาท เกือบสามเท่า ครับ เพียงหนึ่งปีสร้างผลตอบแทนสูงถึง 300 % ลงทุน 1,000,000 หุ้นใช้เงินแค่ 440,000 บาทตอนนี้ได้ 1.2 ล้านบาท ซึ่งจำนวนหุ้นขนาดนี้ สามารถซื้อขายได้ทุกวัน แล้วใครจะกล้าซื้อ ถ้ากล้าซื้อก็รวยได้ ..


วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552

ดัชนีหุ้นวันนี้ 660-680 จุดได้เห็นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ตลาด

สถานการณ์หุ้นตอนนี้พลิกไปมา ไม่แน่นอน ครับ แต่กราฟทางเทคนิค ส่วนใหญ่ให้ไปทางขึ้น ตอนนี้เป้าขยับไปเป็น 750 จุดแล้ว ผมว่าไม่ต้องรอปี 2553 ปีนี้ก็น่าจะเห็นแล้ว ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรมากระทบ เพราะอเมริกาเริ่มฟื้นขึ้นมาตามลำดับและคนก็เริ่มหมดความกลัวไปแล้ว หันมาทางโลภ มากขึ้น ซื้อตัวไหนก็ขึ้นหมด วันนี้ดัชนีมีลุ้น 680 จุด แล้วหุ้นที่คุณถืออยู่วิ่งแค่ไหน ลองดูกันไปครับ ขอให้โชคดี

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

รวยด้วยหุ้น ขอโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียว

สวัสดี ท่านนักลงทุนผู้สนใจหาความรู้และเรียนจากประสบการณ์ จริง วันนี้ หุ้นได้สร้างความรำ่รวยให้ใครหลายคนที่เห็นโอกาสและนำเงินที่มีมาลงทุน อย่างเช่น หุ้น THAI และ TMB ผมติดไว้สูงครับ แต่ก็ไม่ยอมซื้อเมื่อราคามันลงมาต่ำๆ THAI ลงถึง 6.70 บาท ส่วน TMB 0.45 บาท เพียงไม่ถึงปี ราคา THAI วันนี้ 22.40 บาท และ TMB ราคา 1.08 บาท สูงกว่า 100% ทั้งสองตัว

โอกาสแค่ครั้งเดียว คุณก็รวยจากหุ้นได้ ถ้าคุณมีเงิน 1,000,000 บาท วันนี้มันจะเพิ่งเป็นสองเท่า อะไรจะให้ผลตอบแทนได้ดีกว่านี้ เพียงแต่คุณต้องมีความรู้และเข้าใจพฤติกรรมของคนเล่นหุ้น บางครั้งซื้อโดยไม่มีเหตุผลและขายอย่างไร้สติ ราคามันถึงขึ้นลงได้มากมายเหลือเกิน เรียกว่า จาก 100 ลงเหลือไม่ถึง 1o และจาก 10 ก็ขึ้นมาเป็น 100 ได้ในพริบตา

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ลงทุนในหุ้น ดีกว่าฝากเงิน จริงๆ


ครับ สวัสดีท่านผู้สนใจหุ้นทุกท่าน เมื่อวานผมลองไปธนาคารต่าง ๆ เพ่ือสอบถามอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ทุกวันนี้ เงินฝากออมทรัพย์ เหลือเพียง 0.5% หมายความว่า เงินฝาก 100 บาทได้ดอกเบี้ย 0.5บาท ถ้า 10000 บาท จะได้ดอกเบี้ย 50 บาท และเงินฝาก 100000 บาท จะได้ปีละ 500 บาท

แต่ถ้าลงในหุ้น esso ที่ราคา 7.50 บาท จะได้เงินปันผลหุ้นละ 0.8 บาท เงิน 100000 บาท ซื้อหุ้นได้ 13,300 หุ้น รับเงินปันผลปีละ 0.8x13300 = 10,640 บาท และยังลุ้นโอกาสกำไรราคาหุ้นกลับไปราคาจองที่ 10 บาทอีกด้วย

ส่วนหุ้นเมื่อมีขึ้นก็มีลง ถ้าราคานำ้มันในตลาดโลกลงเมื่อไรก็ให้ขายหุ้นโรงกลั่นน้ำมันทุกตัวได้เลย แล้วไปรอรับต่ำๆ เล่นไม่ยากสำหรับหุ้นที่ปัจจัยขึ้นลงชัดเจน ฝากไว้ครับ

เพิ่มเติม หุ้นที่ผมคิดว่าเป็นตัวอย่างที่ดีคือ ssf ตอนนี้ราคาพุ่งมาถึง 4.80 บาทแล้ว จากราคาต่ำสุดเมื่อปีที่แล้ว 1.66 บาท พร้อมปันผลอีกกว่าปีละ 8 % ตอนนี้กำไรต่อหุ้นยิ่งมากกว่าเดิม ราคาก็ขึ้นไปได้เรื่อยๆ ครับ ดูจากภาพทางเทคนิครายเดือน จะเห็นว่า เป็น bullish ชัด อาจจะขึ้นอีกหลายเดือน แล้วก็ต้องระวังอาจจะลงอีกหลายปีด้วย เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงแต่ป้องกันได้ถ้ามีความรู้ความเข้าใจทั้งพื้นฐานและเทคนิค

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การลงทุนหุ้นมีความเสี่ยง หากไม่รู้หลักวิเคราะห์ทางเทคนิค


นักลงทุนมากมายขาดทุนเพียงเพราะไม่ยอมลงทุนหาความรู้ก่อน และนี่คือหลักสูตรที่อย่างน้อยนักลงทุนต้องรู้

หุ้นพลังงาน ที่รอคอย เพราะราคาเพิ่งจะมาแค่ครึ่งทางเอง


ESSO หุ้นโรงกลั่น ซึ่งผมก็ติดอยู่ หวังว่าปีนี้คงจะได้ เห็น 8-10 บาทสักครั้งนะครับ ขอให้ผู้ถือหุ้นเอาใจช่วย หลังผลการดำเนินงานปีนี้ คงมีกำไรมากมาย ปันผลอย่างน้อยน่าจะได้ 0.50 บาท แต่ถ้าโชคดี อาจจะได้ถึง 0.75 บาท ช่วงนี้กราฟดูจะเป็นการพักตัว แต่RSI ยังไม่สูง มีโอกาสกลับไปได้แถว 7.00 บาท ถ้า SET ยังไม่ลงแรงๆๆ

ส่วน PTTAR ปีนี้หวังเห็นที่ 40 บาท ถ้าทำงานกันดีๆ ปันผลปีนี้น่าจะได้เกิน 1.50 บาท ครับ ถือไว้่ หรือซื้อเพิ่ม อย่าขาย เวลาขึ้น ใช้เวลายาวนาน 50 บาทอาจะได้เห็น รอดูกัน

SET INDEX พักฐาน


สัญญาณทางเทคนิคของ SET INDEX วันนี้ น่าจะพักฐานแถว 640 ก่อน ถ้าไม่อยู่ก็รอ 630 ส่วนอนาคตจะไป 700 จุดหรือไม่ ต้องรอดูผลประกอบการไตรมาสสอง ครับ น่าจะมีลุ้น ภาวนาว่าจะไปถึงครับ...

THAI comeback


หุ้นการบินไทย ภาพของเทคนิคน่าจะมีโอกาสไปทดสอบ 15.00 บาทนะ RSI ยังตำ่กว่าตลาด เลยมีคนเข้ามาเล่นเก็งกำไร รอดูผลประกอบการนิดหนึ่งว่า จะขาดทุนตามที่โบรกเกอร์ วิเคราะห์หรือเปล่า ยังไม่ออกมาเป็นทางการ อย่าเพิ่งหลงเชื่อครับ ผมคิดว่าใครมีอยู่ ไม่ควรขายแล้วครับ ต้องซื้อเพิ่มอย่างเดียวเท่านั้น ไปขายเมื่อราคาเกิน 50-60 บาท ภาวนาว่า ปีหน้าคงจะถึง ถ้าปีนี้จ่ายปันผลได้ครับ...รอลุ้นกัน

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

แนวทางแก้ไขเมื่อติดหุ้นในราคาสูง

ช่วงเวลานี้ หุ้นปรับตัวขึ้นแบบต่อเนื่อง แต่มูลค่าการซื้อขายไม่ตาม คือไม่เพิ่มตาม ปกติถ้าเล่นกันจริงๆ น่าจะได้เห็นราว 40000 ล้านบาทแล้วครับ เพราะ SET Index ติดแนวต้าน ที่ 630 ต้องดูปิดเย็นนี้ว่าจะยืนได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่า นักลงทุนจำนวนมากคงติดหุ้น ไม่มากก็น้อย คำถามคือ เราควรจะแก้ไข อย่างไรได้บ้าง เพื่อให้เราสามารถนำเงินลงทุนกลับคืนมาพร้อมกำไร ติดปลายนวมนิดหน่อยก็ยังดีกว่าขาดทุนครับ

สำหรับผมมีแนวทางอยู่สามวิธีคือ อันดับแรก ถ้าหุ้นที่เราซื้อไว้มีกำไรต่อหุ้น และมีอนาคต ผมเลือกวิธีการซื้อเฉลี่ยไปเรื่อยๆ อาจจะต้องใช้เวลาในการรอคอยบ้างแต่ก็คุ้มค่า เพราะระหว่างรอจะได้รับเงินปันผลไปทุกปี มากน้อยก็ไม่มีปัญหาอะไร เช่น ผมติด หุ้น SSF อยู่ที่ 2.90 บาท เดิมมีหุ้นแค่ 4000 หุ้น ต่อมาซื้อเข้ามาเพิ่ม ตั้งแต่ราคาต่ำกว่า 2.50 บาท จนมี 20000 หุ้น ราคาเฉลี่ย 2.40 บาท ได้เงินปันผลมาทุกปี และในที่สุดปีนี้ก็สามารถขายออกไปได้ในราคา 4.00 บาท มีกำไรมากพอสมควร

ทางที่สอง ถ้าหุ้นตัวนั้น ยังไม่เห็นว่าจะมีการจ่ายปันผล เราลงทุนด้วยเวลาไปก่อน ยังไม่ซื้อเพิ่มครับ เช่น กรณีของการบินไทย THAI ผมติดอยู่ที่ 38 บาท ในช่วงที่ซื้อนั้น ปันผลก็โอเค แต่เมื่อปีที่ผ่านมาเจอนำ้มันแพง เข้าไป ประกอบกับการบริหารงานที่ผิดพลาด ทำให้การบินไทย ตกตำ่ จริงๆ แล้วนำ้มันแพงไม่น่าทำให้ขาดทุนมากมาย ขนาดนี้ ส่วนปีนี้เริ่มมีกำไร แต่ยังไม่แน่ เลยต้องรอดู เมื่อไรจ่ายปันผลได้ผมจึงจะซื้อเพิ่มครับ


อีกประเภทหนึ่งคือ หุ้่นที่ขาดทุนและไม่สามารถมองเห็นการทำกำไรได้ ก็ต้องตัดใจขายออกไป ในราคาที่เราคิดว่ายอมรับได้ หรือช่วงที่หุ้นขึ้นสูงจากการเก็งกำไร ก็น่าจะทำให้เราไม่ติดหุ้นจนนอนไม่หลับ และมีเวลาไปหาหุ้นลงทุนตัวอื่นๆ ต่อไปในอนาคตครับ การลงทุน มีกำไรและขาดทุน เสมอครับ แต่ขอให้ผลลัพธ์เป็นกำไรสุทธิก็ถือว่าโอเค จะใช้เวลากี่ปีก็ไม่ว่ากันครับ ....

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

MCOT ได้ผู้อำนวยการคนใหม่แล้ว ราคาน่าจะกลับไปที่ 25-32 บาท



หลังจากราคาตกตำ่จนได้เห็นเลข 10.00 บาทไปในรอบที่ผ่านมา บมจ.อ.ส.ม.ท. หรือ MCOT ยังฟื้นไม่เต็มที่เลย รอบนี้การได้ ผู้อำนวยการใหญ่ คนใหม่ น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะกำไรและเงินปันผลยังดีมาก ครับ ทำไมไม่มีการไล่ราคาเหมือนตัวอื่นๆ ครับ อย่างน้อยขอเห็นที่ 25-30 ราคาเดิมๆ ก่อนลงมาก็พอใจแล้วครับใครมีอยู่ก็ถือรับปันผลกันไปเรื่อยๆ ก่อนครับ อีกทั้ง ผมเคยไปประชุมผู้ถือหุ้น ก็ให้ความเป็นกันเองกับผู้ถือหุ้นรายย่อยดีมากๆ ครับ เป็นตัวอย่างที่ดีครับ สำหรับการใส่ใจผู้ถือหุ้น ครับ

หุ้นพุ่งไม่กลัวไข้หวัด 2009

ช่วงนี้สังเกตได้ว่า ข่าวร้ายไม่กระทบตลาดเท่าไรนัก ราคาหุ้นยังพุ่งไปได้ แต่รูปแบบของ SET INDEX กำลังสร้าง double top ที่ 620 หรือเปล่า ต้องระวังผลประกอบการที่จะออกมาในเร็ว ๆวันนี้ หากเป็นไปได้มีหุ้นอยู่ให้ ขายไปบ้าง เฉพาะที่กำไร เพราะหุ้นมีขึ้นก็มีลง เป็นวงจรที่ต้องทำใจ ครับ รอบที่แล้วใครขายไปช่วง 300 กว่าๆ ก็น่าเสียดายครับ เพราะมีลงก็ต้องมีขึ้น ดังที่เห็นและเป็นอยู่ตลอดระยะเวลา 30 ปี ที่ผ่านมา


วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ภาพรวมตลาดหุ้น ยังต้องระวังแรงขาย เข้าไม่ทัน อย่าเล่น


ล่าสุดวันนี้ ดัชนีปิดตัวในแดนบวกได้มากพอดู มาปิดที่ 588.98 บวก 18.55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายลดลงอย่างชัดเจน อยู่ที่ 16298.57 ล้านบาท ทิศทางการเคลื่อนไหวน่าจะแค่รีบาวนด์ รอบหนึ่งแล้วลงต่อไปพักอยู่ที่ 550 จุดได้ กลยุทธ์ ขึ้นขาย ลง รอรับ

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ได้เวลาขาย หลังจากมาถึงเป้าหมายแล้ว

ช่วงนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกต่างพากันปรับฐาน หรืออาจเรียกว่า เปลี่ยนทิศทางจากขาขึ้นเป็นขาลง (ชั่วคราว) หรือเปล่ายังไม่แน่ใจ ถ้ามีข่าวร้ายมาเสริมก็อาจจะเป็นขาลงสัก 100 จุดได้ ไปรับกันที่ 540 เลย ระยะกลางๆ ตอนนี้ถือเงินสดไว้ 70 % ครับ ถ้าตัวไหนยังขึิ้นสวนไปได้ก็เน้นทางขายไว้ครับ

Cj069