มาถึงวันนี้ ที่ดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 700 บวก เชื่อว่าเมื่อย้อนไปหกเดือนก่อน ไม่มีใครอยากซื้อหุ้น เพราะดัชนีอยู่แค่ 300-400 จุด เท่านั้น และนี่คือกฏแรกที่ชาวหุ้นต้องย่อมรับ เมื่อหุ้นมีขึ้นก็ต้องมีลง และเมื่อลงได้ ก็ขึ้นได้
รอบนี้คิดว่ามีเศรษฐีใหม่จากการตัดสินใจนำเงินมาลงในหุ้น ผมขอยกตัวอย่างเช่น CPF ลงทุนที่ 3.00 บาท มีของขายมากมาย ถ้าซื้อ 100,000 หุ้น เมื่อหกเดือนก่อน ใช้เงิน 300,000 บาท ลองมาดูราคาวันนี้สิ 11.40 บาท คุณได้เงินไป 1.14 ล้านบาท กำไรจากราคาส่วนต่าง ถึง 840,000 บาท คิดเป็น 2.8 เท่าของเงินลงทุน เสน่ห์ของตลาดหุ้นคือตรงนี้
เงินทองไม่ต้องมีมากแต่สามารถทำกำไรได้ถ้าเลือกหุ้นถูกตัว ถูกเวลา แต่การจะตัดสินใจเลือกนี่สิ ยากที่สุด เพราะอนาคตคืิอผลของปัจจุบัน ผลคือผลการดำเนินงานที่ต้องดีต่อเนื่อง และเติบโตเกินคาด แต่ใครจะหยั่งรู้ได้
สิ่งหนึ่งที่ใช้ประกอบการคือ ตัวเลขทางการเงิน กราฟทางเทคนิค อย่างปัจจุบัน ผมมองตัว EGCO ที่มี PE ต่ำแค่่ 5.6 เท่า และกำไรต่อหุ้นสูงถึง 12.6 บาท ต่อหุ้น แต่ราคาอยู่ที่ 74.00 บาท เท่านั้น ลองนึกถึงตัว KYE เช่นกัน พอกำไรต่อหุ้นสูงมาก ใครละจะไม่อยากได้ เพราะฉะนั้น เวลานี้เอาเงินไปลงในหุ้น EGCO ผลิตไฟฟ้าน่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าฝากธนาคารและปลอดภัยในระยะปี
สรุปว่า เลือกหุ้นให้แม่นยำ เป็นศาสตร์และศิลป์ ที่แวดล้อมด้วยหลักทางการเงิน ข้อมูลและกราฟทางเทคนิค ที่ทุกท่านสามารถค้นหาได้จาก settrade.com ทุกคนมีข้อมูลเท่าๆ กัน แต่ใครจะถอดรหัสได้ ก็เท่านั้น