Stock is everything in your life. Buy Dividend Stock Only.
"การลงทุนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า"
ลงทุนเฉพาะหุ้นที่มีกำไร มีปันผลสูงสุด 5 อันดับ และหุ้นรายได้มั่นคง
วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554
AI หุ้นนี้หายไปนาน กราฟสวยแล้วน่าลุย
AI หายไปจากจอ 5 ปี เคยเห็นแถว 7-8 บาท ตอนนี้เหลือ 2.90 บาท และเคยต่ำสุด 2.60 ตอนนี้พบว่ากราฟเริ่มฟื้นตัวและกำลังจะผ่าน 3.00 บาท หากวอลุ่มเข้ามา ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผ่าน 3 บาทไปซื้อ...ส่วนพื้นฐาน มีเงินปันผล และธุรกิจก็มีกำไร น่าสนใจมากถ้าวอลุ่มมาสนับสนุน
SCC อยู่ระหว่างพักตัวชั่วคราว
SCC วันนี้ปิด 326 ลง 4 บาท จากกราฟทางเทคนิค มีแนวรับแถว 322 ถ้าหลุด อาจจะลงได้แถว 316 คิดว่าอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะไปต่อ หรือจะปรับลง ขึ้นกับผลประกอบการไตรมาสสี่ และภาวะตลาดรวม จึงน่าจะขายออกไปบางส่วนถ้ามีกำไร ถ้าไม่มีก็ถือต่อ รับปันผลได้
PTTGC โดนทดสอบแนวรับสำคัญอีกรอบ แถว 62 บาท
PTTGC วันนี้ปิดแถว 63.00 บาท หลังจากข่าวหุ้นออกรายงานว่า ผลดำเนินงานไตรมาสสี่ของปีจะไม่ดีตามคาด เนื่องจากสเปรดราคาวัตถุดิบ อะโรเมติกส์ แต่อย่างไรก็ตาม ระยะยาวๆ น่าจะดี เพียงแต่ราคาหุ้นอาจจะถูกมองว่าขึ้นมาจาก 53.50 มาสูงสุด 68.50 มาก ประมาณ 28% แต่ผลงานไม่น่าจะถึง ราคาเลยลงมา ยังคงแนะนำซื้อ และคงเป้าหมายปี 55 ไว้ มากกว่า 70 บาท
LHBANK กำลังขึ้นน่าจะผ่าน 1.50 เร็วๆนี้
LHBANK ราคาปิดวันนี้ 1.44 + 0.02 จากกราฟเห็นได้ชัดว่าอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และปรับลงให้รับเป็นรอบๆ แล้ว 1.40-1.42 พรุ่งนี้อาจจะผ่าน 1.50 มีประเด็นได้เข้า set 100 ถ้ามีอยู่และยังไม่กำไร ควรถือต่อเพื่อรอกลับไปนิวไฮที่ 1.8 มีความเป็นไปได้ เช่นเดียวกับ TMB ที่เคยขึ้นไป 2.บาทกว่าๆ จาก 0.4 บาท แนะนำซื้อสะสม
KTC น่ารับแถว 11.00
KTC ขึ้นมาจากต่ำกว่า 10 บาท สูงสุดที่ 12.00 ขึ้นมามากกว่า 20% ในเดือนกว่าๆ นี้ เห็นกราฟทางเทคนิค ราคามีโอกาสลงมาแถว 11 อีกครั้งก่อนผ่านแนว 12.00 แต่ถ้าผ่านก่อนต้องซื้อตาม..เพื่อไปเล่นกันเหนือ 13.00 แต่โอกาสลงมีสูงกว่า แล้วปรับขึ้น ไม่ขาย ก็ถือต่อ แต่ถ้ายังไม่มี รอซื้อแถว 10.90-11.10 น่าจะมีโอกาสได้ของ ในภาวะเช่นนี้
วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554
TCAP พุ่งแรงติดแนวต้าน 29 ลงมา 26 ซื้อได้
CNS มีลุ้นทำนิวไฮ รอบ 52WEEK เร็วๆนี้
CNS ปิดได้ที่ 29.50 ราคาสูงสุดของวันทำได้ 30.25 และราคาเคลื่อนไหวรอบ 52 สัปดาห์ คือ 33-27 โอกาสสร้างนิวไฮเหนือ 33 บาทรอบนี้มีสูง หากนำข่าวการควบกิจการ และมีการคาดว่า CNS จะเป็นรายต่อไป เพื่อรับการแข่งขันในอนาคต ส่วนกราฟ ตัวชี้วัดต่างๆ สัญญาณบวกหมด รอผ่าน 30.25 แล้วยืน ได้ ซึ่งสัปดาห์หน้าน่าจะผ่าน และคนที่ถือหุ้น BLS, PHATRA จะเข้ามาลงทุนในตัว CNS แทน
วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2554
KTC เป้าหมาย 12-13 บาท แล้วน่าจะมีย่อลงมาบ้าง
KTC สองวันก่อนสะสมของอย่างมาก สังเกตจากวอลุ่มเข้ามามากติดต่อกันสองวัน แล้วล่าสุดปิดได้ 11.70 สูงสุด 11.90 มี gap ขาลงแถว 12 บาท ถ้าผ่านไปได้มีลุ้นไป 14 บาทเป็นอย่างน้อย มีอยู่ถือรอขายแถว 14 หรือถ้าไม่ขาย ถือต่อไป น่าจะได้แถว 15-16
ARIP ซื้อสะสม ถือยาวๆ จบขาลงแล้ว
ARIP หลังจากรอบแรกทดสอบแถว 1.11 แล้วไม่ผ่าน ปรับลงตามแรงขายของผู้ถือต้นทุนต่ำ แถว 0.90 ล่าสุดแรงซื้อเข้ามาหนาแน่น จนปิดได้ที่ 1.11 และทำไฮ ระหว่างวันที่ 1.14 สัปดาห์หน้ามีลุ้นเห็น 1.20-1.30 แรงเหวี่ยงน่าจะดี rsi 71 โมเมนตัมกำลังแรง... ใครมีอยู่น่าถือยาว เพราะจุดต่ำสุดของขาลงผ่านไป อนาคตมีแต่ราคาขึ้นๆๆๆๆๆ
ssi น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ระยะยาวถือ ซื้อเพิ่มเมื่อลงมา 0.68
SSI มาแล้ว ปิดได้แถว 0.72 ผ่านแนวต้านแรก 0.67-0.69 มาได้ น่าจะเป็นการจบขาลง ใครซื้อไว้แถวนี้ ถือยาวไปเลย ระยะ 6 เดือน น่าจะได้กำไรเท่าตัว 100 % ซื้อสะสมไป
IVL ต้องผ่าน 34 ถึงจะเห็น 37.00 มีอยู่รอขายแถวแนวต้าน
IVL ระยะสั้นติดกรอบบน แถว 34 บาท อาจจะลงมาได้ถ้าไม่ผ่าน แต่ก็ไม่เยอะ 31 น่าจะรับอยู่แล้วปรับขึ้นต่อ ผ่าน 34 ไป เจออีกด่านที่ 37 แนะนำ ซื้อ 31 ขาย 37
THAI เพิ่งเริ่มวิ่ง ผ่าน 21.50 ไปเป้า 25.50 ยาวๆ ถือไป
THAI ผ่านช่วงเวลาสะสมของไปแล้ว แถว 19.00-20.00 เริ่มเดินหน้า ปิดล่าสุด 21.20 ทำไฮได้ 21.40 ติดแนวต้านแรก 21.50 แต่น่าจะผ่านไป ได้ ระยะกลางอาจจะไปได้แถว 30-33 บาทอีกรอบ แนะนำ ซื้อและถือระยะเดือน
CNS ยังซื้อสะสมไปแบบตั้งรอ เนื่องจากกราฟยังไม่มา
CNS ยังนิ่งแม้หุ้นในกลุ่มไปกันเกิน 10% แล้ว จากการตรวจสอบกราฟทางเทคนิคพบว่า แรงซื้อยังไม่มา โมเมนตัมยังไม่แรง เป็นไปได้ว่ามีการประกาศจ่ายปันผลไป 3.10 บาท และกำลังจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นเร็วๆ นี้ เลยยังไม่มีการเข้ามาเล่นเก็งกำไร กลยุทธ์คือ ถือต่อ และซื้อสะสมเพิ่ม ขายเหนือ 30.25
SAT ใกล้ระเบิดราคาผ่าน 20.50 สัปดาห์หน้าแน่นอน
SAT ด้านปัจจัยพื้นฐานคงไม่ต้องกล่าวถึง เพราะดีอยู่แล้ว ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแต่ ผลกระทบจากการชะลอคำสั่งซื้อ แต่โบรกส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าน่าจะกลับมาเร็วและเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มยานยนต์ จากกราฟทางเทคนิค rsi, macd แสดงถึงการสะสมพลังมาสักระยะหนึ่ง น่าจะทำราคาขึ้นสัปดาห์หน้า เมื่อผ่าน 20.50 น่าตามซื้อ ยิ่งวอลุ่มเข้ามากขึ้นด้วย น่าจะไปได้แถว 25.75 และปีหน้าอาจจะไปได้ถึง 28-30 บาทเช่นที่เคยทำสูงสุดไว้ 30.25 คำแนะนำซื้อสะสมแถว 20.00-20.50 ไม่ขายเด็ดขาด
วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
CPF สร้างจุดสูงสุดใหม่ 33.75
CPF ที่ทราบกันไปแล้วว่าขึ้นมาด้วยข่าวการไปลงทุนในต่างประเทศ แต่ราคาไม่ผ่าน 33.75 ทางเทคนิคก็มีความเป็นไปได้ที่จะปรับลงมาแถว 31 บาท แล้วค่อยขึ้นไปอีกรอบ หากผ่าน 33.75 จะไปต่ออีกแถว 36.00-38.00 คำแนะนำ รอซื้อเมื่ออ่อนตัว แต่ถ้าผ่าน 33.75 อาจจะตามซื้อไปขาย 36 แต่รอบต่อไปต้องลงก่อนแน่นอน
วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
KK น่าจะไปต่อแถว 32-35 บาท
SAT ลุ้นผ่าน 20.50
SAT chart วันที่ 18 Nov 2011 โดย settrade.com จากการปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องจากจุดต่ำสุด 15.60 ช่วงประมาณวันที่ 20 -oct -2011 แล้วมาติดแนวต้านท่ี 20.50 สามครั้งไม่ผ่าน (วันที่ 15,16,17 nov ) วันศุกร์เลยปรับลงมาแถว 19.80 แล้วมาปิดที่ 20.00 บาท แนวโน้มสัญญาณต่างๆ เข้าเขตซื้อมากไป อาจจะต้องปรับฐานราคาแถว 19.40-20.00 สักระยะ แล้วรอลุ้นให้ผ่าน 20.50 ไปได้จะไปแรงและเร็ว... พื้นฐานยังโอเค ไม่น่ากังวล กลยุทธ์ ซื้อลงทุนเมื่ออ่อนตัว แล้วรอขายเหนือ 25.00 บาทขึ้นไป ..
วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ผลกระทบจากน้ำท่วม
เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ ต้องยอมรับว่าเกิดผลเสียหายต่อหลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่มีประกันภัยโรงงานเอาไว้บ้าง อย่างไรก็ดี คงมีผลกระทบต่อกำไรในไตรมาสสี่ อย่างแน่นอน เพราะมีการหยุดผลิต และเครื่องจักรต่างๆ เสียหาย ไม่สามารถบอกได้ว่าจะสามารถกลับมาผลิตได้เร็วที่สุดเมื่อไร ทำให้ราคาหุ้นในอุตสาหกรรมที่โดนน้ำท่วมโดยตรง อย่างอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จนใกล้ระดับต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้นในรอบการซื้อขายหลายปีที่ผ่านมา การเข้าซื้อลงทุนจึงต้องทำการบ้านอย่างหนักว่า หุ้นตัวที่จะลงทุนนั้น มีความเสียหายโดยตรงหรือเป็นความเสียหายจากการหยุดคำสั่งซื้อเท่านั้ัน ดังนั้น ก่อนซื้อหุ้นเหล่านี้ ต้องมีความมั่นใจและเข้าถึงข้อมูลให้มาก เพราะอาจจะต้องรอการฟื้นตัวนานหลายเดือน กว่ากำไรจะกลับมา สำหรับความเห็นส่วนตัวคิดว่า น่าจะอย่างน้อยสามเดือน แล้วค่อยมาเก็งกำไรเรื่องออเดอร์ตกค้างอีกที จะทำให้ราคาหุ้นกลับมาได้อย่างน้อยสองเท่า ส่วนตอนนี้ ถ้าจะซื้อควรทยอยที่ละน้อย แล้วตามดูผลกระทบก่อน แต่เชื่อว่ารอบหน้าคงต้องโตอย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน..
วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554
GOLD ฤาจะกลับสู่ระดับ 900 เหรียญ
ถ้าเราใช้ Fibonacci คำนวณหาจุดรับที่น่าจะเป็นไปได้ ระดับ 0.618 คือ 1900-272 = 1628 แล้วคูณด้วย 0.618 จะได้ ระดับการย่อตัวที่เหมาะเข้าลงทุนระดับรายปี คือ 1900-1006 เท่ากับ 894 เหรียญ ลองดูว่าจะแม่นไหม..
วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554
SET INDEX มีโอกาสลงต่อแถว 998
วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
BLS ผ่าน 14 ขึ้นมาแล้ว ไม่ควรลงต่ำกว่านี้ ต้องขยับขึ้นต่อ
BLS เมื่อวานไม่ผ่าน 14.40 บาท มาปิดแถว 14.10 บาท น่าจะมีการแกว่งตัวสร้างฐานก่อนขึ้นไป ทะลุ 14.4 มีอยู่ถือต่อ รอซื้อเพิ่ม ถ้าไม่หลุด 14.00 แล้วไปขายแถว 15-16 บาท โดยปัจจัยพื้นฐานก็ดี มีปันผลและราคาลดลงมามาก จากการจ่ายหุ้นปันผล รอวิ่งแรงๆๆ อีกรอบ
เพิ่มเติม ล่าสุดวิ่งมาซื้อขายกันแถว 15.7-15.9 แต่ยังไม่ผ่าน อาจจะผ่านยากสักหน่อย
วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554
set index ลุ้นผ่าน 1031 สัปดาห์ก่อนเลือกตั้ง
วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554
MALEE เทรดสนั่น ปิด 15 บาท บวกไป 13.14 บาท
บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) ได้ฤกษ์ เทรดวันแรก 22-มิถุนายน-2554 ลากจาก 8.00 กว่าๆๆ ไปถึง 15.2 มาปิดได้ที่ 15.00 บาท ยอดซื้อขาย 1000 ล้านบาท วันนี้เรียกได้ว่ามีทั้งคนรวย และรวย มากๆๆ จากหุ้นตัวนี้ แต่ด้วยราคาที่ยังไม่สอดรับกับผลประกอบการที่ดีขึ้น อย่างโดดเด่น ที่ไตรมาสแรกประกาศกำไรต่อหุ้น 0.43 บาท และถ้าทั้งปี น่าจะได้ 1.6 คิดว่าราคาน่่าจะแพงไปถ้าเกิน 16 บาทไปแล้ว และยังต้องระมัดระวังแรงขายหลังจากหุ้นหมดความนิยม
วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
QH ถึงจุดเข้ารับรอบใหม่แล้ว 2.04-2.06
QH หลังจากขึ้นเครื่องหมาย xd ที่ 0.12 บาท และประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาตามคาด คือลดลง ทำให้ราคาไหลลงมาแถว 2.04-2.06 ซึ่งตามกราฟจะเห็นว่าเป็นจุดรับที่มีโอกาสเล่นดีดกลับไปที่ 2.2 -2.3 จากผลกำไร ในไตรมาสต่อไป และเป้าหมายที่โบรกเกอร์ให้ไว้ แถว 3.00 บาทสำหรับปีนี้น่าจะมีโอกาสไปถึงได้ แนะนำซื้อสะสมแถว 2.04 หรือถ้าหลุดลงไปคงจะไปได้แถว 1.92 รับไว้ได้ เพราะผลประกอบการที่จะฟื้นตัวในไตรมาสสองเป็นต้นไป
TVO น่าจะเข้าลงทุนได้แล้ว
วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
WORK กำลังตัดสินจะวิ่งขึ้นหรือลง
เมื่อผลประกอบการออกมาเป็นไปตามคาด ทำให้ราคาของ WORK ผ่าน 12.20 มายืนแถว 12.5 สูงสุด 12.8 เป้าหมายน่าจะไปได้แถว 14.00 จากสไตล์การลงทุนแล้วหุ้นตัวนี้ต้องถือนานนิดหนึ่ง จะขึ้นแรงแล้วนิ่งแล้วขึ้นแรง จนกว่าผลการดำเนินงานจะแย่ลง ราคาถึงจะลดลง
BLS เป็นการรีบาวน์ มิใช่ขาขึ้น ขายแถว 16.40-16.80
BLS หลังขึ้นเครื่องหมาย xd 2.15 บาท พร้อมหุ้นปันผล 2:1 ทำให้ราคาลงมาเล่นกันแถว 15.50-18.3 จากกราฟยังไม่ ผ่าน 18.30 เป็นการเล่นในกรอบขาลงสั้ันๆ และหาต่ำกว่า 15.50 ลงมาจะมาเล่นกันแถว 14.50 ต้องดูว่ากลยุทธ์การลงทุนของเราเป็นยาวหรือสั้น ถ้าสั้นให้ขายแถว 16.60-17 แล้วค่อยดูอีกครั้งว่า 15.50 จะรับอยู่ไม่ ถ้าอยู่รอบนี้อาจจะผ่าน 18.30 ไปได้ ยิ่งผลประกอบการออกมาดี ยิ่งทำให้การปรับตัวรอบนี้ใช้เวลาไม่นาน
วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
AP น่าซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว
วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
set index มีแนวโน้มปรับลงตามกราฟ
3-may-2011 set index ปิดลบไป 2.12% มาอยู่ที่ 1070.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย เกือบ 40000 ล้านบาท ระยะสั้นดูแนวรับ 1060 ถ้ารับไม่อยู่เช่นมีข่าวร้ายทำให้เกิดความไม่มั่นใจตลาดอาจจะลงมาแถว 1000 จุดได้อย่างเร็วเลย..เพราะตอนนี้ส่วนใหญ่มีกำไรกันมาก และถ้า set index จะไปต่อได้ต้องไม่ต่ำกว่า 1004.xx แล้วต้องกลับขึ้นไป ผ่าน 1113 จุดให้ได้ภายในไตรมาสสองหรือต้นไตรมาสสาม...คำแนะนำ ถือเงินสดรอซื้อเมื่อลงมาแนวรับ
บริษัท สาลี่คัลเล่อร์จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิด IPO มิ.ย.นี้
นายขวัญชัย ณัฎฐเศรษฐ์กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่คัลเล่อร์จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกผสมสีและสารเติมแต่งแบบเข้มข้น หรือเม็ดพลาสติกมาสเตอร์แบตซ์ และเม็ดพลาสติกคอมพาวด์ รวมถึงสีผสมพลาสติกแบบชนิดผง เผยว่าหลังจากที่บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขาย หุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ขณะนี้ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. แล้ว
"แต่เราไม่รีบร้อนที่จะต้องนำหุ้นออกมาขายในช่วงนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้เราตั้งใจที่จะเป็นบริษัทแรกที่ขายหุ้นไอพีโอของปีนี้เป็นบริษัทแรก แต่ไม่เป็นไร เพราะเราอยากให้ตลาดหุ้นนิ่งและสดใสมากกว่านี้ก่อน ผมมองว่าระยะนี้ยังผันผวนแต่ก็ถือเป็นสีสันของตลาดหลักทรัพย์ ผมอยากให้เราเข้าไปแล้วได้รับการต้อนรับที่ดี ดีกว่าไปแล้วผิดหวัง"
นายขวัญชัย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ที่ปรึกษาการเงินคือบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ ทำข้อมูลเพื่อการขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้ดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางเดือนพฤษภาคมนี้ที่จะได้ราคาขายได้ ก่อนที่จะเปิดให้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้ในเดือนมิถุนายนและคาดว่าจะเข้าซื้อขายในเดือนเดียวกันนี้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ทยอยเดินสายโรดโชว์เพื่อให้เป็นที่รู้จักของนักลงทุนด้วย
"ผมก็ทำเรื่อยๆ ออกไปทำความรู้จักกับหลายๆ ทางครับ และหุ้นที่เสนอขายนี้เราจะแบ่งให้แก่ผู้มีอุปการคุณด้วยบางส่วนครับ ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็จะไดลูตลงไปฝ่ายละ 20% ซึ่งปัจจุบันวีไอวี อินเตอร์เคมถือหุ้น21.69% และสาลี่อุตสาหกรรมถือหุ้น10.85% โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิ และอาจมีออปชันแบบลดราคาให้แก่นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นด้วยครับแต่จะเท่าไหร่ก็ต้องมาว่ากันอีกที อยู่ที่บทสรุปของที่ปรึกษาการเงินครับ"
โดยสาลี่คัลเล่อร์จะนำหุ้นเพิ่มทุนใหม่ดังกล่าว เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ หรือ mai และเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ประมาณ 70% บริษัทจะนำไปใช้ในการซื้อเครื่องจักรเพื่อโครงการขยายกำลังการผลิตมาสเตอร์แบตซ์ประเภทสีดำ หลังพบว่าเมื่อปี 52 แนวโน้มความต้องการใช้สูง โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมท่อน้ำ บรรจุภัณฑ์เกษตร ยานยนต์ ฯลฯ ซึ่งบริษัทได้สั่งซื้อเครื่องจักรแล้ว คาดว่าจะส่งมอบได้ช่วงเดือนมิถุนายนปี 54 และเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนสิงหาคมมูลค่าการลงทุนประมาณ 70 ล้านบาทซึ่งเครื่องจักรใหม่มีกำลังการผลิต8,000 ตันต่อปี ส่วนเงินที่เหลือจะใช้ในการดำเนินงาน
สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทนั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาเม็ดพลาสติกที่เป็นวัตถุดิบหลักของบริษัทในการผลิต ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น หากต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นและบริษัทไม่สามารถปรับราคาขายสินค้าได้ แต่บริษัทได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด และยังคงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากมีการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศด้วย
"แต่เราไม่รีบร้อนที่จะต้องนำหุ้นออกมาขายในช่วงนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้เราตั้งใจที่จะเป็นบริษัทแรกที่ขายหุ้นไอพีโอของปีนี้เป็นบริษัทแรก แต่ไม่เป็นไร เพราะเราอยากให้ตลาดหุ้นนิ่งและสดใสมากกว่านี้ก่อน ผมมองว่าระยะนี้ยังผันผวนแต่ก็ถือเป็นสีสันของตลาดหลักทรัพย์ ผมอยากให้เราเข้าไปแล้วได้รับการต้อนรับที่ดี ดีกว่าไปแล้วผิดหวัง"
นายขวัญชัย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ที่ปรึกษาการเงินคือบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ ทำข้อมูลเพื่อการขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้ดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางเดือนพฤษภาคมนี้ที่จะได้ราคาขายได้ ก่อนที่จะเปิดให้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้ในเดือนมิถุนายนและคาดว่าจะเข้าซื้อขายในเดือนเดียวกันนี้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ทยอยเดินสายโรดโชว์เพื่อให้เป็นที่รู้จักของนักลงทุนด้วย
"ผมก็ทำเรื่อยๆ ออกไปทำความรู้จักกับหลายๆ ทางครับ และหุ้นที่เสนอขายนี้เราจะแบ่งให้แก่ผู้มีอุปการคุณด้วยบางส่วนครับ ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็จะไดลูตลงไปฝ่ายละ 20% ซึ่งปัจจุบันวีไอวี อินเตอร์เคมถือหุ้น21.69% และสาลี่อุตสาหกรรมถือหุ้น10.85% โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิ และอาจมีออปชันแบบลดราคาให้แก่นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นด้วยครับแต่จะเท่าไหร่ก็ต้องมาว่ากันอีกที อยู่ที่บทสรุปของที่ปรึกษาการเงินครับ"
โดยสาลี่คัลเล่อร์จะนำหุ้นเพิ่มทุนใหม่ดังกล่าว เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ หรือ mai และเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ประมาณ 70% บริษัทจะนำไปใช้ในการซื้อเครื่องจักรเพื่อโครงการขยายกำลังการผลิตมาสเตอร์แบตซ์ประเภทสีดำ หลังพบว่าเมื่อปี 52 แนวโน้มความต้องการใช้สูง โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมท่อน้ำ บรรจุภัณฑ์เกษตร ยานยนต์ ฯลฯ ซึ่งบริษัทได้สั่งซื้อเครื่องจักรแล้ว คาดว่าจะส่งมอบได้ช่วงเดือนมิถุนายนปี 54 และเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนสิงหาคมมูลค่าการลงทุนประมาณ 70 ล้านบาทซึ่งเครื่องจักรใหม่มีกำลังการผลิต8,000 ตันต่อปี ส่วนเงินที่เหลือจะใช้ในการดำเนินงาน
สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทนั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาเม็ดพลาสติกที่เป็นวัตถุดิบหลักของบริษัทในการผลิต ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น หากต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นและบริษัทไม่สามารถปรับราคาขายสินค้าได้ แต่บริษัทได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด และยังคงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเนื่องจากมีการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศด้วย
วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
หมดเทศกาลประชุมผู้ถือหุ้น เข้าสู่การลุ้นผล q1/54
บริษัท สหวิริยาสตีล อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทสุดท้ายที่ผมเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น รอบนี้จัดที่ห้องบอลรูม โรงแรม ฮอลิเดย์อินน์ ชั้นใต้ดิน การลงทะเบียนและต้อนรับผู้ถือหุ้นดีครับ อาหารจัดเต็ม ซาลาเปา5 ลูก ขนมจีบ อีก 5 ลูก เรียกว่าใครทานข้าวเที่ยงมาต้องหิวกลับบ้านอย่างเดียว ส่วนเครื่องดื่มก็เต็ม ชากาแฟ น้ำหวาน น้ำอัดลม ครบ ของที่ระลึกเป็นกระเป๋าผ้าอย่างดี ถือว่ารอบนี้ ssi จัดเต็ม บรรยากาศในห้องประชุมก็มีการเปิดภาพการเปิดโรงงานถลุงเหล็กที่อังกฤษ มาให้ชมกันอย่างเต็มอิ่ม ทำให้มั่นใจว่าบริษัทจะมีอนาคตที่ดีกว่าวันนี้ ซึ่งราคาหุ้นอยู่แถว 1.35-1.40 บาท
เทศกาลประชุมผู้ถือหุ้นหมดไป ผมได้ข้อคิดอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นบริษัทที่เจ้าของหรือกรรมการผู้จัดการใหญ่เป็นชาวต่างชาติ จะให้การต้อนรับผู้ถือหุ้นได้ไม่ดีเท่าแบบคนไทยเป็นเจ้าของครับ อาหารก็ไม่เพียงพอ และการให้บริการลงทะเบียนจะไม่ค่อยเวิร์ค
ผมจึงตัดสินใจว่า จะไม่ลงทุนในหุ้นที่ต่างชาติเป็น กรรมการผู้จัดการใหญ่อีกต่อไปครับ.. และบริษัทที่ต้อนรับผู้ถือหุ้นไม่ดี ก็ไม่ลงทุนอีกเช่นกัน
อย่างไรก็ดี เราควรจะดูผู้บริหารก่อนลงทุนซื้อหุ้นเข้ามา เพราะมีผลต่อกำไรขาดทุนอย่างยิ่ง และเราไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลพวกต่างชาติได้..
สำหรับนับจากนี้จะเล่นกันที่ผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2554 หลายบริษัทผลออกมาดี อย่าง PHATRA ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 2.65 บาท ราคาก็ขึ้นมารอแถว 33.75-34.75 บาทแล้ว คงไปไหนไม่รอด
ส่วน BLS, KEST ก็กำไรดี กันทั่วหน้า บริษัทหลักทรัพย์กำไรกีกว่าไตรมาสแรกของปีก่อน ทำให้ต้องพิจารณาซื้อกลับเข้าพอร์ตอีกรอบ หลังจากขายออกไป ส่วน ssi ประกาศออกมาไม่มีกำไรพิเศษจากการซื้อโรงถลุงที่อังกฤษทำให้หุ้นราคาดิ่งลงมาแถวแนวรับใหญ่อีกคือบริเวณ 1.32-1.35 ถ้ารับไม่อยู่อาจจะไปเริ่มใหม่แถว 1.20 อีกแต่คิดว่าปลายปีนี้ยังไงต้องเห็น 1.8-2.0 บาทเป็นแน่ ขายได้แต่ต้องซื้อกลับมา..
สำหรับผมคิดว่าพยายามปรับพอร์ตให้เหลือหุ้นน้อยกว่า 5 ตัว เพื่อการจัดการและได้ผลตอบแทนมากขึ้้นจากเงินที่ลงมาขึ้นในหุ้นที่น้อยตัว พยายามสร้างกำไรจากเงินปันผลและส่วนต่างราคาต่อไป..
วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554
DTAC ประชุมผู้ถือหุ้นที่โรงแรมดุสิต
DTAC มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 21 เมษายน 2554 เวลา 10.00 น. ที่รร.ดุสิตธานี การลงทะเบียนผู้ถือหุ้น ค่อนข้างล่าช้า จำนวนเจ้าหน้าที่น้อย มีอาหารเลี้ยงเป็นโจ๊ก และข้าวหมูแดง ชากาแฟ ไม่ค่อยพอ ของชำร่วยเป็น บัตรเติมเงินจำนวน 200 บาท จำนวนผู้ถือหุ้นน่าจะมาไม่มาก เพราะมีหลายบริษัทจัดประชุมวันนี้ ผมเองก็ต้องรีบกลับไปประชุมที่ออฟฟิศ เลยไม่ได้อยู่ฟัง แต่โดยภาพรวมก็ถือว่า ไม่น่าประทับใจ ทั้งที่ออฟฟิศดีแทคอยู่ที่จัตุรัสจามจุรี แต่นำเจ้าหน้าที่มาน้อยมาก ...อาจจะต้องทบทวนการจัดงานประชุมผู้ถือหุ้นให้ดีขึ้น ปีก่อนจัดดีกว่าที่โซฟิเทล ลาดพร้าว สถานที่กว้างขวางกว่า และมีการรับรองผู้ถือหุ้นดีกว่า
PTTAR Shareholder meeting
วันนี้ 21-เมษายน 2554 ที่โรงแรมโซฟิเทลลาดพร้าว มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท PTTAR เวลา 9.00 น. มีผู้ถือหุ้นมาลงทะเบียนจำนวนมาก และมากันแต่เช้า สำหรับการต้อนรับของเจ้าหน้าที่ก็ดีมาก ทำงานรวดเร็ว มีของชำร่วยเป็นกระเป๋าขนาดใหญ่แต่พับได้ สีสรรสวยงามถูกใจผู้ถือหุ้นที่มาร่วมงานอย่างมาก มีหนังสือฉบับพิเศษที่จัดทำเพื่อผู้ถือหุ้นโดยเฉพาะ และการจัดอาหารว่าง ชากาแฟก็เพียงพอ อีกทั้งยังมีอาหารกลางวันแถมด้วย
วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554
PRANDA GOLD
PRANDA GOLD เป็นของที่ระลึกสำหรับผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 20-เมษายน 2554 ณ โรงแรมโนโวเทลบางนา เวลา 14.00 น. ทางบริษัท ต้อนรับผู้ถือหุ้นอย่างดี มีอาหารกลางวัน ก๋วยเตียวเรือ และอาหารญี่ปุ่นให้ทาน พร้อมชากาแฟ เต็มที
สำหรับเนื้อหาสาระที่น่าสนใจ คือปัญหาที่กำไรของบริษัทลดลง เนื่องจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนค่อนข้างมาก ทั้งที่ทำยอดขายได้เพิ่ม กำไรเพิ่มแต่แปลงเป็นเงินบาทแล้วลดลง อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรยังดี มาก หากเงินบาทอ่อนค่า จะทำให้บริษัทมีกำไรแบบก้าวกระโดด สิ่งที่ต้องติดตามคือ ค่าเงิน ราคาวัตถุดิบและ เศรษฐกิจของยุโรป มีผลต่อ PRANDA สำหรับราคาช่วงนี้ทรงตัวอยู่ที่ 6.35-6.40 เป็นราคาที่ลงทุนได้ แต่ยังไม่ไปไหนไกล เพราะปัจจัยลบดังกล่าว.. ระยะยาวดี ปันผลยังดี ต่ำสุดที่เคยจ่าย คิดเป็น 5%ของราคาหุ้น ก็ไม่น่ากลัวอะไร หนี้สินต่ำ ผู้บริหารถือหุ้นใหญ่ และระมัดระวังการใช้เงิน บริษัทดำเนินงานมาแล้วกว่า 38 ปี ผ่านวิกฤติมาหลายครั้ง มั่นใจได้.. มีหุ้นถือต่อ ไม่มีหาโอกาสสะสม แล้วแต่ความพอใจ
การจ่ายเงินปันผลที่ผ่านมา 10 ปีจ่ายไปแล้ว 6.45 เท่ากับคนถือราคาเมื่อสิบปีก่อนไม่มีต้นทุนแล้วครับ อาจจะมีการขายออกมาก็เป็นได้..แต่ถ้าไม่อยากขายบริษัทดีๆ ถือต่อไป
วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554
TTA เป้าหมายระยะสั้นๆ 21.5-22.00
STPI รอผ่าน 28 ไป 31. ,33, 34.2
SSI น่าจะพักสร้างฐาน แถว 1.51-1.56
PDI รอบนี้ขายแถว 23.60-24.60
MACO target รอบนี้ 6.06-6.42
UKEM 1.56 น่าจะผ่านได้
Technical Comment
วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554
SET index on ipad
วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554
PDI ใกล้จะผ่าน 24.00 ทนรอวอลุ่มนิดหนึ่ง
MACO นิวไฮในรอบ 6 เดือน
STPI ต้านแรก 27.50 น่าจะชนได้
SSI อาจจะทำกำไรแถว 1.49 อาจจะผ่านยากรอบแรก แต่ต้องผ่าน
วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554
SSI เชิงเขา ...ที่ยังไต่สูงได้อีกไกล
PDI รอผ่าน 24.00 ตามได้ แต่ราคานี้ควรสะสมไว้
ภาพทางเทคนิคของ PDI มีแนวโน้มจะผ่าน 22.60 และลุ้นผ่าน 23 ด้วยโมเมนตัมสนับสนุนจากค่า rsi มากกว่า 50 ขึ้นมาแล้ว และรอวอลุ่มสนับสนุน น่าจะเห็น 24-25 ในสัปดาห์หน้า
PDI ผาแดงหลังจากตกลงมาหลายเดือนจาก 29.50 บาท ได้เวลาจะปรับขึ้นไป หากวอลุ่มเข้ามาและราคาผ่าน 22.60, 24.00 ไปได้ จะมีลุ้น 29.00 บาทอีกรอบ คำแนะนำ ซื้อสะสมไว้ อาจจะได้ปันผลฟรี อีก 1.29 บาท ซึ่งจะขึ้นเครื่องหมาย วันที่ 6 เดือนพฤษภาคม 2554 ภายในเดือนเมษายนนี้อาจจะได้เห็นเลข 29.00 ก็เป็นได้ อย่าลืมดู
PRANDA ราคาต่ำน่าสะสม หรือ Follow buy เมื่อผ่าน 7บาทจะไป 9.00
PRANDA กราฟย้อนหลัง 5 ปี จะเห็นได้เป็นหุ้นรีบาวน์ และมีแนวโน้มผ่าน 7.00 บาท เพื่อไปแถว 9.00 หากผ่าน 9.00 ถือเป็นนิวไฮในรอบ 5 ปี จะเป็นขาขึ้นใหญ่ ด้วยปันผลทีสูงถึง 17% และยอดขายที่เติบโต มีความเป็นไปได้ และราคาปิดวันนี้ 6.30 เป็นราคาต้ังรับเข้าพอร์ต อาจจะมีคนไม่รอขายออกมาให้ คำแนะนำ สะสม.ให้มากที่สุด
วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554
Chuo วันนี้ชนเพดาน 18.30 แต่ไม่มั่นใจว่าจะยืน
แนวโน้มราคาวิ่งแรง ชนเพดานสองวัน ทำให้เกิดภาวะซื้อมากไป rsi วิ่งถึง 90 กว่าๆ อาจจะไปต่อได้ตามแรงโมเมนตัมที่ ข่าวยังไม่ชัด แต่น่าจะมีการชะลอตัวลงมาบ้าง ตอนนี้รอดูว่าจุดสูงสุดของรอบนี้จะเป็นเท่าไร แต่วันนี้ เทรดกันที่ 18.30 ก็สร้างนิวโฮ ในรอบ 5 ปีแล้ว อาจจะไปถึง 20.50-40.50 ก็ได้ ไม่มีใครตอบได้ แต่ถ้ากำไรก็ออกได้ หรือจะถือต่อก็ไม่มีปัญหา
วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554
CHUO มีข่าวเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่
บริษัท ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") ขอเรียนให้ทราบว่า เนื่องดัวยบริษัท ชูโอ เซ็นโก แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ (ร้อยละ 33.09) ได้ยื่นล้มละลายใ น เดือนตุลาคม 2553 และอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาล้มละลายโดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยได้รับการแต่งตั้งจากศาลในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2554 เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ในฐานะผู้มีอำนาจในบริษัท ชูโอ เซ็นโก แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ได้แจ้งรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยเป็นรายการจำหน่ายไปทั้งจำนวนที่ราคา 40.50 บาทต่อหุ้น และกำหนดการซื้อขายให้แก่ผู้ถือหุ้นใหม่ในวันที่ 31 มีนาคม 2554 จากข้อมูลข้างต้น โครงสร้างของผู้ถือหุ้นหลังจากทำรายการดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงโดยมีรายละเอียดดังนี้ ข้อมูลก่อนการเปลี่ยนแปลง ข้อมูลหลังการเปลี่ยนแปลง
ลำดับ ชื่อผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้น ร้อยละ จำนวนหุ้น ร้อยละ
1. Chuo Senko Advertising Co., Ltd. 3,722,500 33.09 -0- -0-
(ประเทศญี่ปุ่น)
2. Asia Business Support Association -0- -0- 2,305,000 20.49
Co., Ltd. (ประเทศไทย)
3. The Pacific Century Fund Pte. Ltd. -0- -0- 1,417,500 12.60
(ประเทศสิงคโปร์)
ทั้งนี้ บริษัทฯยังไม่ได้รับการติดต่อจากผู้ถือหุ้นใหม่ดังกล่าว และยังไม่ได้รับทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการดำเนินงานและการบริหารจัดการ อย่างไรก็ตาม หากบริษัทฯรับทราบข้อมูลดังกล่าว แล้ว บริษัทฯจะแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันต่อไป ที่มา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554
DTAC อยู่ในโซน พิจารณาขายทำกำไร
DTAC ขึ้นมาจาก 42 บาท เข้าสู่ 46-46.50 บาท เป็นราคาที่ได้ปันผลไปแล้ว 4 บาท จึงเป็นช่วงที่สามารถพิจารณาขายทำกำไร โดยไปรอรับหลังขึ้นเครื่องหมาย xd ได้เลย แต่อาจจะขึ้นต่อก็ได้ ถ้าปัจจัยแวดล้อมดี แต่อะไรล้วนไม่แน่นอน จึงต้องพิจารณาจะถือต่อรับปันผลก็ได้ ไม่มีปัญหา แต่ถ้าราคาตกลงมาก็อย่ากังวล เพราะ DTAC เป็นหุ้นที่ไม่เสี่ยงอยู่แล้ว แนะนำขาย..ไปก่อนแล้วค่อยมาซื้อหลัง xd
PTL ถ้าหลุด 23.00 สัญญาณไม่ดี
PTL หุ้นยอดนิยมในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่วันนี้ค่อนข้างเงียบไป หลังจากมีข่าวลือไม่ดีจากบริษัทแม่ และมีการเทขายอย่างหนัก ตั้งแต่ 35 บาทลงมา จนวันนี้มาเล่นกันที่ 23.00 ถ้ามีตำ่กว่า 23 อาจจะลงไปลึกแถว 21.60 อีกรอบ แต่ปัจจัยพื้นฐานด้านงบการเงินยังดูดีนะครับ ไม่น่าห่วงอะไร ปันผลก็น่าจะอยู่ราวๆ หุ้นละ 1.00 กว่าๆ ใครสนใจลองจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาและข่าวต่าง ๆให้ดี อาจจะมีพลิก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)